โลกร้อนทำไวน์เปลี่ยนถิ่น ไวน์อังกฤษ-จีน มาแรง เตรียมแซงฝรั่งเศส

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเริ่มเปลี่ยนแปลง “แผนที่ไวน์โลก” อย่างชัดเจน ด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นและฤดูกาลเพาะปลูกที่ยาวนานขึ้น ทำให้ประเทศที่ไม่เคยเป็นแหล่งผลิตไวน์มาก่อน กลายเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่น่าจับตา
อังกฤษ ซึ่งเดิมทีไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องไวน์ กลับกำลังสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในด้าน ไวน์สปาร์กลิง ที่เริ่มคว้ารางวัลระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รายงาน Fine Wines and Restaurants Market Monitor ระบุว่า “ภูมิภาคที่เคยปลูกองุ่นบางชนิดไม่ได้ ปัจจุบันเริ่มปลูกได้แล้ว” หากแนวโน้มอุณหภูมิยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมือง ฮัลล์ อาจกลายเป็นแหล่งปลูก คาเบอร์เนต์ โซวินญอง ที่มีชื่อเสียงภายในปี 2100 ซึ่งอาจทำให้ภูมิภาค บอร์กโดซ์ ของฝรั่งเศสต้องเจอกับคู่แข่งที่แท้จริง
ไม่เพียงแค่ในอังกฤษเท่านั้น ยังมี ไวน์ขาวจากสวีเดน ที่เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เช่นเดียวกับ เดนมาร์ก ที่อาจกลายเป็นแหล่งผลิตไวน์ใหม่ในอนาคต เพราะมีฤดูปลูกที่ยาวนานขึ้นและสภาพอากาศอุ่นขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้จำกัดแค่ยุโรป เพราะใน จีน เอง ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะมีการผลิตไวน์เพิ่มขึ้นจากหลากหลายพื้นที่ ตั้งแต่ หนิงเซี่ย ไปจนถึง ยูนนาน ส่วนใน สหรัฐอเมริกา ไวน์จาก เวอร์จิเนีย แมริแลนด์ และแม้แต่ปลายสุดของ ลองไอส์แลนด์ ก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น
ขณะเดียวกัน บรรดาแหล่งผลิตไวน์เก่าแก่ เช่น บอร์กโดซ์และชาบลิส์ในฝรั่งเศส กลับต้องเผชิญปัญหาอย่างหนัก อุณหภูมิที่สูงขึ้น ภัยแล้ง และฤดูกาลเพาะปลูกที่สั้นลง ทำให้การผลิตไม่เสถียร ตัวอย่างชัดเจนคือในปี 2023 บอร์กโดซ์ มีผลผลิตไวน์ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1991 โดยผลิตได้เพียง 3.3 ล้านเฮกโตลิตร ลดลงจาก 3.8 ล้านในปีก่อนหน้า เพราะได้รับผลกระทบจากน้ำค้างแข็ง เชื้อรา และพายุลูกเห็บ
บางไร่เริ่มเก็บเกี่ยวไวน์เร็วกว่าปกติ หรือปลูกองุ่นสายพันธุ์ที่ทนทานต่อสภาพอากาศ บางรายเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกฎระเบียบของการใช้ชื่อไวน์ (appellation) เพื่อให้สามารถปลูกองุ่นพันธุ์อื่นได้ภายใต้ชื่อเดิม
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า “หากไม่เร่งแก้ปัญหาภูมิอากาศ องุ่นพันธุ์ที่เคยปลูกได้เฉพาะยุโรปใต้ เช่น คาเบอร์เนต์ โซวินญอง อาจเจริญเติบโตได้ดีในยุโรปกลางหรือตอนเหนือภายในปี 2100”
เรื่องนี้คล้ายกับกรณีของ “มัสตาร์ดดีฌง” ของฝรั่งเศส หรือ “ชีสกูด้า” จากเนเธอร์แลนด์ ที่อาจหายไปจากภูมิภาคดั้งเดิม เพราะอากาศเปลี่ยน
ไวน์ยังคงเป็นศิลปะของธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ แม้สภาพภูมิอากาศจะเปลี่ยนแปลง แต่ความคิดสร้างสรรค์และความหลงใหลของผู้ผลิตไวน์ก็เปลี่ยนไปด้วย
ดังนั้น ในอนาคต... ไวน์รสเลิศอาจไม่ได้มาจากฝรั่งเศสหรืออิตาลีเสมอไป แต่อาจเป็นจาก ยอร์คเชียร์ เวอร์จิเนีย หรือแม้แต่ หนิงเซี่ย ประเทศจีน—และนั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้วงการไวน์น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เคย