5 ประเทศในเอเชียที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เติบโตอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นประกอบกับหลายประเทศให้ความสำคัญ่และส่งเสริมการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรายงานของ แอมเบอร์ (Ember) องค์กรอิสระด้านพลังงาน ได้เปิดเผยข้อมูล 5 ประเทศในเอเชียที่มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เติบโตอย่างรวดเร็ว

แอมเบอร์ (Ember) องค์กรอิสระด้านพลังงานได้ทำการศึกษาข้อมูลแผนการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าในประเทศจีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ พบว่ามีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เติบโตขึ้นโดยเฉลี่ย 22% ต่อปี โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซียที่มีการเติบโตมากถึง 41.81% และประเทศฟิลิปปินส์มีการเติบโต 34.64% 

ประเทศอินโดนีเซียส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์อย่างต่อเนื่องโดยตั้งเป้าผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยวิธีการดังกล่าวให้ได้ 4.68 กิกะวัตต์ (GW) ภายในปี 2030 หากแผนการดังกล่าวประสบความสำเร็จจะทำให้ประเทศอินโดนีเซียผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ได้มากถึง 180 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ของประเทศอินโดนีเซียปัจจุบันจึงยังมีสัดส่วนน้อยเพียง 0.2% เมื่อเทียบกับการผลิตกระแสไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานอื่น ๆ

ประเทศจีนตั้งเป้าผลิตกระแสไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานลมและโซลาร์เซลล์ให้ได้มากถึง 1,200 กิกะวัตต์ (GW) ภายในปี 2030 โดยการส่งเสริมอย่างจริงจังจากรัฐบาลประเทศจีนทั้งการผลิตกระแสไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน รวมไปถึงการส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

“ประเทศจีนจะสามารถบรรลุกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานลมและโซลาร์เซลล์อย่างน้อย 600 กิกะวัตต์ (GW) ภายในปี 2030 นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าประเทศจีนจะบรรลุเป้าหมายข้างต้น 1,200 กิกะวัตต์ (GW) ได้เร็วที่สุดภายในปี 2026” นักวิเคราะห์นโยบายไฟฟ้าอาวุโสของแอมเบอร์ (Ember) องค์กรอิสระด้านพลังงานกล่าวอธิบายเพิ่มเติม

สำหรับประเทศอื่น ๆ ที่มีความน่าสนใจ เช่น ประเทศฟิลิปปินส์ที่ประกาศในปี 2019 เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ 18 กิกะวัตต์ (GW) ภายในปี 2030 ประเทศอินเดีย ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ 300 กิกะวัตต์ (GW) ภายในปี 2030 และประเทศญี่ปุ่นที่ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ 154-180 กิกะวัตต์ (GW) ภายในปีเดียวกัน

ที่มาของข้อมูล electrek.co

ที่มาของรูปภาพ pixabay.com