รีเซต

ตระกูลทรัมป์ครองโทเคน WLFI มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ หลังปลดล็อกครั้งใหญ่

ตระกูลทรัมป์ครองโทเคน WLFI มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ หลังปลดล็อกครั้งใหญ่
ทันหุ้น
2 กันยายน 2568 ( 10:50 )
9

ตระกูลทรัมป์ครองโทเคน WLFI มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ หลังปลดล็อกครั้งใหญ่

ตระกูลของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นผู้ถือครองโทเคน World Liberty Financial (WLFI) มูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์ หลังจากมีการปลดล็อกโทเคนครั้งใหญ่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

เว็บไซต์ World Liberty Financial ระบุว่า บริษัท DT Marks DEFI LLC และสมาชิกครอบครัวทรัมป์ ถือครองอยู่ราว 22.5 พันล้าน WLFI tokens ก่อนที่บริษัทจะปลดล็อกโทเคนเพิ่มอีก 24.6 พันล้าน WLFI เพื่อสร้างอุปทานหมุนเวียนเริ่มต้น ทำให้ราคาพุ่งแตะ $0.40 ก่อนจะปรับลงมาอยู่ที่ $0.21

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้มูลค่าการถือครองของครอบครัวทรัมป์แตะระดับ 5 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าก่อนหน้านี้โทเคนของผู้ก่อตั้ง รวมถึงทรัมป์และลูกชายทั้งสาม (Donald Trump Jr., Eric Trump, และ Barron Trump) จะถูกล็อกไว้ก็ตาม

โครงการคริปโตผูกโยงทรัมป์

    • World Liberty Financial (WLFI) : โปรเจกต์ที่ครอบครัวทรัมป์ถือครองมหาศาล

    • Official Trump Memecoin : เหรียญมีมที่ถูกจับตาว่าอาจใช้สร้างฐานเสียงการเมือง

    • American Bitcoin (ABTC) : บริษัทเหมืองบิตคอยน์ของตระกูลทรัมป์ กำลังเตรียมเข้าตลาด Nasdaq ผ่านการควบรวมกับ Gryphon Digital

นอกจากนี้ รายงานจาก The New Yorker ยังเผยว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ทำกำไรจากกิจการคริปโตมากกว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2022 ไม่ว่าจะเป็นโครงการโทเคน, กิจการเหมืองบิตคอยน์ หรือการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ

การปลดล็อกโทเคน WLFI ครั้งนี้ตอกย้ำว่า ครอบครัวทรัมป์กำลังสร้างอิทธิพลอย่างมากในวงการคริปโต ทั้งการลงทุนโดยตรงและโครงการที่เกี่ยวข้อง แม้จะถูกวิจารณ์ว่ามีความเสี่ยงต่อการทับซ้อนระหว่าง ผลประโยชน์ทางการเมืองและการเงิน แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทคริปโตที่เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อการเมืองโลกมากขึ้น

อ้างอิง : cointelegraph.com

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/trump-family-world-liberty-5b-crypto

Ethereum ครองแชมป์! กองทุนคริปโตฟื้นแรง สัปดาห์เดียวเงินไหลเข้า $2.5 พันล้าน แซง Bitcoin ขาดลอย

ข้อมูลล่าสุดจาก CoinShares ชี้ว่า ผลิตภัณฑ์การลงทุนด้านคริปโตที่บริหารโดยยักษ์ใหญ่ในตลาด เช่น BlackRock, Fidelity, Grayscale, ProShares, Bitwise และ 21Shares มียอดเงินไหลเข้าสุทธิรวม $2.48 พันล้าน (ราว 9.1 หมื่นล้านบาท) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้าพบกระแสเงินไหลออก

ตัวเลขดังกล่าวทำให้ยอดรวมตลอดเดือนสิงหาคมแตะที่ $4.37 พันล้าน และผลรวมตั้งแต่ต้นปี 2025 อยู่ที่ $35.5 พันล้าน แม้ว่า มูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (AUM) ลดลง 10% จากจุดสูงสุด เนื่องจากแรงกดดันด้านราคาของตลาดคริปโต

James Butterfill หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ CoinShares ระบุว่า

ตลอดทั้งสัปดาห์มีแรงซื้อค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เริ่มชะลอตัวลงในวันศุกร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE ของสหรัฐฯ ที่ไม่สนับสนุนความหวังเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายน”

Ethereum ครองกระแสเงินทุน แซงหน้า Bitcoin ขาดลอย

แม้ Bitcoin ยังคงได้รับความนิยม แต่ตัวเลขล่าสุดยืนยันว่า Ethereum เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนสถาบันเลือกมากกว่า

    • Ethereum funds: มียอดเงินไหลเข้าสุทธิ $1.4 พันล้าน ในสัปดาห์เดียว โดย ETF ในสหรัฐฯ มีสัดส่วนถึง $1.08 พันล้าน

    • Bitcoin funds: มียอดเงินไหลเข้าเพียง $748 ล้าน โดย ETF ในสหรัฐฯ มีสัดส่วน $440.8 ล้าน

ตลอดเดือนสิงหาคม กองทุน Ethereum มียอดไหลเข้า $3.95 พันล้าน ในขณะที่ กองทุน Bitcoin มียอดไหลออกสุทธิ $301 ล้าน

นอกจากนี้สินทรัพย์ทางเลือกอย่าง Solana (SOL) และ XRP ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยมีเงินไหลเข้า $177 ล้าน และ $134 ล้าน ตามลำดับ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่ามาจากกระแสคาดการณ์การอนุมัติ Spot ETF ในสหรัฐฯ

การไหลเข้าของเงินทุนกว่า $2.5 พันล้านในสัปดาห์เดียวสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนสถาบันยังคงมั่นใจในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะ Ethereum ที่กำลังกลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับการลงทุนระยะยาว ขณะที่ Bitcoin เริ่มถูกมองว่าไม่ใช่ผู้นำเพียงหนึ่งเดียวของตลาดอีกต่อไป

อ้างอิง : theblock.co

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/crypto-funds-inflows-2-5b-ethereum-outpaces-bitcoin-2025

Metaplanet ทะยานถือครอง Bitcoin แตะ 20,000 BTC พร้อมออกหุ้นเพิ่มทุน 11.5 ล้านหุ้น

Metaplanetบริษัทด้าน Bitcoin Treasury อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ประกาศเข้าซื้อเพิ่มอีก 1,009 BTC ทำให้ยอดสะสมรวมทะลุ 20,000 BTC หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 16.4 พันล้านเยน (ราว 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) พร้อมกับการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 11.5 ล้านหุ้น

รายละเอียดการซื้อและการออกหุ้น

ข้อมูลจาก BitcoinTreasuries.net ระบุว่า Metaplanet เป็นบริษัทที่ถือ Bitcoin มากที่สุดในญี่ปุ่น และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก โดยบริษัทเข้าซื้อ BTC เฉลี่ยที่ราคา 102,607 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ปัจจุบันถือกำไรประมาณ 6.75%

หุ้นใหม่ที่ออกมานั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ Evo Fund ใช้สิทธิแปลงสภาพวอร์แรนต์ เข้าซื้อหุ้นจำนวน 10 ล้านหุ้นที่ราคา 5.67 ดอลลาร์ และอีก 1.5 ล้านหุ้นที่ราคาเกือบ 6 ดอลลาร์ รวมเป็นมูลค่าราว 65.7 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปใช้ไถ่ถอนพันธบัตรก่อนกำหนดมูลค่า 20.4 ล้านดอลลาร์

ความท้าทายและแรงกดดันตลาด

แม้จะเดินหน้าสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นของ Metaplanet กลับปรับตัวลงแรงกว่า 54% ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ขณะที่ราคาของ Bitcoin ยังบวกขึ้น 2% ในช่วงเวลาเดียวกัน นักวิเคราะห์เตือนว่าหากราคาหุ้นยังร่วงต่อไป จะทำให้การออกหุ้นใหม่เพื่อลงทุน Bitcoin มีความท้าทายมากขึ้น

แผนระดมทุนครั้งใหญ่

ล่าสุด Metaplanet ยังมีแผนระดมทุนเพิ่มอีกกว่า 130.3 พันล้านเยน (880 ล้านดอลลาร์) ผ่านการออกหุ้นในตลาดต่างประเทศ และอาจเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนสูงสุดถึง 555 ล้านหุ้น ซึ่งอาจสร้างเม็ดเงินได้มากถึง 3.7 พันล้านดอลลาร์ หากได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น

บทเรียนจากกลยุทธ์ Bitcoin Treasury

กลยุทธ์ถือครอง Bitcoin ในฐานะทรัพย์สินสำรองของบริษัท เริ่มต้นจาก Strategy (อดีต MicroStrategy) ที่ทำให้หลายบริษัททั่วโลกหันมาใช้แนวทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งการันตีเสมอไป เพราะหากราคาของ Bitcoin ร่วงหนัก บริษัทที่ใช้โมเดลนี้ก็อาจเจอความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องและการถูกบังคับขายได้เช่นกัน

อ้างอิง : cointelegraph.com

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/metaplanet-bitcoin-holdings-20000-btc-share-issuance

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง