เอกชนท่องเที่ยวจี้รัฐยกเลิกไทยแลนด์ พาส หลังผ่อนคลายเงื่อนไขเข้าประเทศ

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนยกเลิกการตรวจหาเชื้อผ่าน RT-PCR เมื่อเข้าไทย ถือว่าดีกว่าเดิม เพราะตอนนี้ผ่อนปรนต่างๆ เกือบหมดแล้ว เหลือเพียงระบบไทยแลนด์ พาสเท่านั้น ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องกรอกข้อมูล เพื่อเดินทางเข้าไทย อาทิ หลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว การทำประกันสุขภาพ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ถูกร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงมาก ว่าการกรอกข้อมูลในระบบสร้างความล่าช้า เพราะมีความสับสน และไม่เอื้อความสะดวกในการเข้าประเทศ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ จึงอยากให้ยกเลิกระบบไทยแลนด์ พาส ที่ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ เพื่อความสะดวกในการเข้าประเทศมากที่สุด เพราะหากทำขั้นตอนการเข้าประเทศให้ง่าย รัฐบาลตัดสินใจได้เร็ว ก็จะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวไทยได้มากขึ้น

“กำหนดเริ่มยกเลิกตรวจหาเชื้อผ่าน RT-PCR เมื่อเข้าไทย ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ คงต้องรอกลางพฤษภาคมไปแล้ว ประเมินว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทย จะมีเชื้อโควิดมากหรือน้อยอย่างไร ซึ่งหากมีเพิ่มขึ้นไม่มาก ก็อยากให้รัฐบาลตัดสินใจยกเลิกไทยแลนด์ พาสทันที เพราะตอนนี้ในเดือนพฤษภาคมนี้จะเข้าช่วงโลว์ซีซั่นแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวระยะไกลจะไม่เดินทางมาเที่ยวไทยเหมือนช่วงไฮซีซั่น เพราะสามารถเที่ยวประเทศในระยะใกล้ 3-4 ชั่วโมงได้ เนื่องจากอากาศเริ่มร้อนและดีกว่าเดิม ทำให้แม้มีการผ่อนคลายเงื่อนไขเข้าประเทศในตอนนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็คงไม่ได้เข้ามาเที่ยวไทยมากเท่าที่ควร โดยความจริงอยากให้ยกเลิกไทยแลนด์ พาสพร้อมกัน แต่เท่าที่คุยกับรัฐบาล ประเมินว่าน่าจะขยับไปอีกระยะหนึ่งคือ เดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้มั่นใจด้านสาธารณสุขอย่างเต็มที่ก่อน” นายธเนศกล่าว

นายธเนศกล่าวว่า ตอนนี้ต้องยอมรับว่า หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะมัลดีฟส์ ที่นักท่องเที่ยวนิยมสูงมาก เพราะขั้นตอนการเข้าประเทศค่อนข้างง่ายและมีความสะดวก เนื่องจากแม้ยังต้องกรอกข้อมูลต่างๆ อยู่ ก่อนเข้าและออกประเทศ 72 ชั่วโมง แต่ข้อมูลจะเชื่อมต่อกับระบบตรวจคนเข้าเมืองทันที จึงไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งเท่าที่เข้าไปลองดูในแอพพลิเคชั่นกรอกข้อมูล ก็ใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น มัลดีฟส์จึงได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวสูงมาก โดยเข้าใจว่า ที่รัฐบาลไทยยังคงระบบไทยแลนด์ พาสไว้อยู่ เป็นเพราะต้องตรวจสอบเอกสารการฉีดวัคซีนและการซื้อประกันสุขภาพ ซึ่งมองว่าในยุคดิจิทัลแบบนี้ เราควรทำระบบที่เชื่อมต่อกับตรวจคนเข้าเมืองได้ทันที เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าประเทศ เพราะหากประเทศไทยเข้าได้สะดวก นักท่องเที่ยวก็จะเลือกเรา แทนการไปเที่ยวที่อื่น

นายธเนศกล่าวว่า ที่ผ่านมาช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด เราพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กี่ตลาดหลักๆ ได้แก่ จีน 10 ล้านคน อินเดีย 1 ล้านคน รัสเซีย 1 ล้านคน ทำให้ช่วงโลว์ซีซั่นที่ปกติจะมีนักท่องเที่ยวเหล่านี้เข้ามาช่วยหนุนก็คงคาดหวังไม่ได้ เพราะจีนมีข้อจำกัดที่รัฐบาลจีนยังไม่ปล่อยพลเมืองเดินทางออกนอกประเทศ ใช้นโยบายซีโร่โควิดอยู่ ส่วนรัสเซียก็มีเรื่องสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน จึงคาดหวังได้เพียงตลาดอินเดีย และประเทศใกล้เคียงไทยเท่านั้นที่พอจะมีศักยภาพอยู่บ้าง แต่ระยะการพำนักน้อย ประมาณ 4-5 วันเท่านั้น

“ความจริงควรผ่อนคลายเงื่อนไขการเข้าประเทศตั้งแต่ 2-3 เดือนที่ผ่านมา เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องการเข้ามาเที่ยวไทยมากๆ พอมาผ่อนคลายในตอนนี้ที่จะเข้าโลว์ซีซั่นแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติก็คงไม่ได้เข้ามามากเหมือนที่คาดไว้ รวมถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายนนี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจชะลอตัวลงด้วย เพราะหากล่าช้าเพื่อเลื่อนเข้ามาเที่ยวเดือนพฤษภาคมนี้แทนได้ ก็จะประหยัดค่าการตรวจ RT-PCR ไปได้อีก 4-5 พันบาท ซึ่งก็ถือเป็นจำนวนที่ไม่ได้น้อยมาก” นายธเนศกล่าว