เป็นงูสวัดพันรอบตัว จะทำให้เสียชีวิต ?
ศ.นพ.ชิษณุ พันธุ์เจริญ ระบุว่า ไม่จริง การเป็นงูสวัดรอบตัว ไม่ได้ทำให้เสียชีวิต แต่เป็นการบ่งชี้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อมาก โดยในผู้ป่วยบางราย ผื่นของโรคงูสวัดสามารถเกิดขึ้นได้พร้อมกันทั้ง 2 ด้านทั้งซ้ายและขวา จนทำให้ดูเหมือนว่างูสวัดพันรอบตัว
โรคงูสวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่าไวรัสวาริเซลลา(Varicella Virus) เป็นเชื้อตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคสุกใส หรือ อีสุกอีใส เมื่อหายจากโรคแล้ว เชื้อจะไปซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกาย หากร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ เชื้อที่แฝงตัวอยู่ก็จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนทำให้เส้นประสาทอักเสบ เกิดการปวดตามแนวเส้นประสาท และปล่อยเชื้อไวรัสออกมาที่ผิวหนังตามแนวเส้นประสาท
อาการของโรคงูสวัด เช่น ปวดแสบร้อนบริเวณผิวหนัง มีผื่นแดงบริเวณที่ปวดแล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใส โดยมากจะเรียงกันเป็นกลุ่มหรือเป็นแถวยาวตามแนวเส้นประสาท และจะแตกออกเป็นแผล
นอกจากนี้ ยังมีอาการแทรกซ้อนของโรคงูสวัด เช่น อาการปวดตามแนวเส้นประสาทหลังการติดเชื้อ พบบ่อยในผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป บางรายอาจปวดนานหลายปี เป็นต้น
"เป็นงูสวัดจะเสียชีวิตหรือไม่"
ศ.นพ.ชิษณุ ชี้แจงว่า การเป็นงูสวัดไม่ได้ทำให้เสียชีวิต แต่ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำร่วมกับภาวะแทรกซ้อนจากโรคงูสวัดมีความเสี่ยงที่อาจจะเสียชีวิตได้ เนื่องจากการติดเชื้องูสวัดจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอ โดยอาการดังกล่าวพบมากในผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ
"แนวทางการรักษาโรคงูสวัด"
-กินยาต้านไวรัสภายใน 48-72 ชั่วโมง หลังเกิดอาการจะช่วยให้รอยโรคทางผิวหนังหายได้เร็วขึ้น และลดความรุนแรงของโรครวมถึงลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้
-ประคบแผลด้วยน้ำเกลือครั้งละประมาณ 10 นาที 3-4 ครั้งต่อวัน จะช่วยทำให้แผลแห้งดีขึ้น
โรคงูสวัด สามารถป้องกันได้ โดยการฉีดวัคซีนโรคงูสวัด เพื่อลดโอกาสการเกิดโรค ลดความรุนแรงของโรค และช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคงูสวัด โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่เคยป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสไปก่อให้เกิดโรคงูสวัดได้ในอนาคต
เขียนข่าว
เรียบเรียงโดย : ธัญรมณ ไพศาลสุนทรกิจ
ผู้สื่อข่าว คอลัมน์ ข่าวนี้จริงไหม ?
ภาพจาก
getty images
ช่างภาพTNN ช่อง16