อเมริกาพัฒนาไม้ที่แข็งกว่าเหล็ก 10 เท่า วางขายจริงแล้ว หวังใช้ทดแทนเหล็กทำทั้งตึกในอนาคต !

อินเวนต์วู้ด (InventWood) สตาร์ตอัปจากสหรัฐอเมริกา พัฒนา “ซูเปอร์วูด (Superwood)” ไม้ชนิดใหม่ ที่อ้างว่าทีความแข็งแรงกว่าเหล็กสูงสุด 10 เท่า และยังมีน้ำหนักเบากว่าเหล็กถึง 6 เท่า วางจำหน่ายแล้วในสหรัฐอเมริกา

ที่มาซูเปอร์ไม้ แข็งกว่าเหล็กในอเมริกา

สตารต์อัปแห่งนี้ก่อตั้งโดยศาสตราจารย์ เหลียงปิง หู (Liangbing Hu) อาจารย์ด้านวิศวกรรมวัสดุ จากมหาวิทยาลัยเยลในสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างวัสดุไม้ ที่เสริมความแข็งแรงให้ทัดเทียมกับเหล็กในปัจจุบัน 

ปกติแล้วไม้ธรรมชาติจะมีรูพรุนในโครงสร้างระดับเซลล์ ที่เรียกว่าเซลลูโลส (Cellulose) ส่งผลให้เกิดความอ่อนตัวและรับน้ำหนักได้จำกัด ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงได้พัฒนากระบวนการเสริมโครงสร้างไม้ธรรมชาติ ด้วยการนำไปต้มในสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร จากนั้นอัดด้วยความร้อนสูงเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อลดรูพรุน ทำให้โครงสร้างเซลลูโลสอัดตัวกันแน่นขึ้น

จุดเด่นซูเปอร์ไม้

ไม้ที่ผ่านกระบวนการดังกล่าว เรียกว่า Superwood ซึ่งจะทนต่อเชื้อราและแมลง ทนต่อไฟมากขึ้น และมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ยังคงจุดเด่นของไม้ธรรมชาติที่มีน้ำหนักเบาเอาไว้ โดยมีน้ำหนักเบากว่าเหล็กถึง 6 เท่า

จากการทดสอบความทนทานของ Superwood บริษัทอ้างว่าทำได้ดีกว่าไม้ธรรมชาติถึง 20 เท่า และยังมีค่าความแข็งแรงต่อน้ำหนักสูงกว่าเหล็ก 10 เท่า หรือหมายความว่าการก่อสร้างบ้านหรืออาคารที่ใช้ Superwood แทนเหล็กเพื่อให้น้ำหนักโครงสร้างลดลง ก็ยังคงความทนทานไว้เท่าเดิมได้ 

บริษัทยังเสริมว่า หากนำ Superwood ไปสร้างอาคารแทนไม้หรือเหล็กในปัจจุบัน จะทำให้โครงสร้างทั้งหมดมีน้ำหนักลดลงจากเดิมกว่า 4 เท่า ซึ่งส่งผลให้ลดระยะเวลาก่อสร้าง รวมถึงทนต่อแผ่นดินไหวได้มากขึ้นตาม และกระบวนการผลิตยังปล่อยคาร์บอนลดลงไปกว่าร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับการผลิตเหล็กอีกด้วย

การพัฒนาและต่อยอดซูเปอร์ไม้ในอนาคต

โดย Superwood เริ่มต้นจากงานวิจัยของศาสตราจารย์ เหลียงปิง หู ที่ตีพิมพ์ในวารสารชื่อดังอย่างเนเชอร์ (Nature) ในปี 2017 ก่อนพัฒนากระบวนการผลิต ทดสอบการผลิตกับไม้จากต้นไม้ 19 สายพันธุ์ พร้อมจดสิทธิบัตรกว่า 140 รายการ ก่อนเปิดตัววางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท InventWood ในปีนี้

ทางบริษัทตั้งเป้าหมายการแข่งขันไปที่เหล็ก เพื่อทดแทนการใช้ขึ้นโครงสร้างเฟอร์นิเชอร์ ตลอดจน น็อต ตะปู หรือชิ้นส่วนในงานก่อสร้าง พร้อมเตรียมการทดสอบเพิ่มเติม เพื่อผลักดันไปสู่การสร้างอาคารขนาดใหญ่ทั้งหลังด้วย Superwood ในอนาคตอีกด้วย