รีเซต

เปิดสถิติ ลักลอบเข้า–ออก ชายแดนไทยกัมพูชา พุ่ง 870 คนใน 90 วัน

เปิดสถิติ ลักลอบเข้า–ออก ชายแดนไทยกัมพูชา พุ่ง 870 คนใน 90 วัน
TNN ช่อง16
27 กันยายน 2568 ( 12:35 )
10

ตัวเลขน่าจับตาหลังปิดด่านชายแดน

สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา นอกจากจะส่งผลทางเศรษฐกิจแล้ว ยังทำให้การลักลอบเข้า–ออกเมืองพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ซึ่งเปิดเผยสถิติการจับกุมระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน ถึง 25 กันยายน 2568 ว่า มีการสกัดจับผู้ลักลอบข้ามแดนถึง 140 ครั้ง รวมผู้ต้องหา 870 คน

รายละเอียดสถิติการจับกุม

  • ขาเข้า จับกุม 107 ครั้ง ผู้ต้องหา 626 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา 370 คน และชาวไทย 215 คน ที่เหลือเป็นชาวเมียนมา 20 คน จีน 6 คน ไนจีเรีย 6 คน บังกลาเทศ 7 คน และปากีสถาน 2 คน รวมถึงผู้มีหมายจับค้างเก่าและผู้เกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรม
  • ขาออก จับกุม 33 ครั้ง ผู้ต้องหา 246 คน กลุ่มใหญ่คือชาวไทย 139 คน และชาวกัมพูชา 102 คน สะท้อนให้เห็นว่าการลักลอบไม่ได้จำกัดแค่การเข้ามา แต่ยังมีการลักลอบออกนอกประเทศด้วย

เมื่อแยกตามสัญชาติ พบว่า ชาวกัมพูชา 472 คน และ ชาวไทย 354 คน คิดเป็นเกือบ 95% ของทั้งหมด นอกนั้นเป็นชาวต่างชาติ เช่น เมียนมา เซียร์ราลีโอน จีน ไนจีเรีย บังกลาเทศ และปากีสถาน

ปัญหาการลักลอบและการขนของผิดกฎหมาย

นอกจากการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานแล้ว เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดของผิดกฎหมายหลายรายการ เช่น ซิมโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก รถจักรยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นหลักฐานว่ามีการใช้ช่องทางลักลอบเพื่อทำธุรกิจผิดกฎหมายควบคู่ไปด้วย

แหล่งข่าวระบุว่า แรงงานกัมพูชาจำนวนมากเลือกเสี่ยงเดินทางเข้ามาในไทย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศถดถอย งานขาดแคลน และรายได้ไม่เพียงพอ ประกอบกับปัญหาการเมืองและการทหารที่ตึงเครียด ทำให้ประชาชนต้องดิ้นรนหาช่องทางทำมาหากิน แม้จะเสี่ยงต่อการถูกจับกุมหรือสูญเสียทรัพย์สินก็ตาม

ความท้าทายต่อความมั่นคงชายแดน

ตัวเลขที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ถือเป็นสัญญาณเตือนต่อความมั่นคงของพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะอำเภออรัญประเทศ ซึ่งเป็นด่านสำคัญในการสัญจรและการค้า การปิดด่านแม้จะเป็นมาตรการด้านความมั่นคง แต่กลับทำให้การลักลอบเพิ่มสูงขึ้น และกลายเป็นช่องทางให้เครือข่ายอาชญากรรมใช้ประโยชน์

กองกำลังบูรพาเน้นย้ำว่า จะต้องเพิ่มความเข้มงวดทั้งการลาดตระเวน การข่าว และการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนที่อาจกระทบทั้งความปลอดภัยของประชาชนและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง