ไอเอสบึ้มปลิดชีพกลางตลาด กรุงแบกแดด สังเวย 32 ราย เจ็บนับร้อย

วันนี้ (22 ม.ค.64) เจ้าหน้าที่รัฐบาลอิรัก แถลงว่า กลุ่มนักรบรัฐอิสลาม หรือไอเอส อ้างความรับผิดชอบในเหตุการณ์โจมตีตลาดที่คราคร่ำไปด้วยฝูงชนในกรุงแบกแดด เมืองหลวงอิรักในวันพฤหัสบดี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 ราย ซึ่งเป็นการระเบิดฆ่าตัวตายครั้งใหญ่ครั้งแรกในอิรักในรอบ 3 ปี พร้อมระบุว่า เป็นการส่งสัญญาณที่แสดงความเป็นไปได้ว่า กลุ่มไอเอสจะกลับมาก่อเหตุรุนแรงอีกครั้ง โดยกลุ่มไอเอสอ้างในเช้าวันศุกร์ว่า นักรบชายของตน 2 คน ระเบิดตัวเองในบริเวณจัตุรัสตายารัน กลางกรุงแบกแดด

หลังเกิดเหตุระเบิด พบคราบเลือดและร้องเท้าจำนวนมากถูกทิ้งอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นตลาดเสื้อผ้าในจัตุรัสตายารัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กล่าวว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 110 คน

พ่อค้าคนหนึ่ง ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า มือระเบิดคนหนึ่งเดินมา แกล้งล้มลงกับพื้นและเริ่มบ่นว่า “กำลังปวดท้อง” และเขาก็กดชนวนระเบิดที่อยู่ในมือ ระเบิดขึ้นทันที ร่างของประชาชนแหลกเหลวเป็นชิ้น

ทั้งนี้ การโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งครั้งหนึ่งเกิดขึ้นรายวันในกรุงแบกแดด ไม่ได้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้วตั้งแต่นักรบไอเอส พ่ายแพ้ในปี 2560 ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการยกเครื่องด้านความมั่นคง ที่ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

การโจมตีในวันพฤหัสบดี เกิดขึ้นในตลาดเดียวกับที่เคยถูกโจมตีในการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งสุดท้าย ในเดือนมกราคม 2561 ซึ่งครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 27 คน

ด้าน นายกรัฐมนตรีมุสตาฟา อัล-กัดฮีมี ของอิรัก จัดการประชุมฉุกเฉินกับบรรดาผู้บัญชาการกองกำลังความมั่นคง เพื่อหารือเรื่องการโจมตีดังกล่าว ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิรักระบุในแถลงการณ์สั้น ๆ ว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงถูกส่งเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย และถนนสายหลักหลายสาย ก็ถูกปิดเพื่อป้องกันความเป็นไปได้ในการโจมตีเพิ่มอีก หลังจากประชุมฉุกเฉินแล้ว นายกรัฐมนตรีกัดฮีมี ก็ปลดบรรดาผู้บัญชาการกองกำลังความมั่นคงและตำรวจ, ผู้อำนวยการสำนักงานปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายและหน่วยข่าวกรองในกระทรวงมหาดไทย และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจส่วนกลางด้วย