ทรัมป์เพิ่มเจ้าหน้าที่ 20,000 คน เร่งการเนรเทศผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) จัดหาเจ้าหน้าที่เพิ่มอย่างน้อย 20,000 ตำแหน่ง เพื่อดำเนินนโยบายการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมาย โดยคำสั่งดังกล่าวถูกออกเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา และเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบริหารที่มีเป้าหมาย “กระตุ้นให้ผู้อพยพผิดกฎหมายเดินทางออกนอกประเทศด้วยตนเอง”
ทรัมป์กล่าวในวิดีโอว่า เขาต้องการทำให้ “กระบวนการออกจากสหรัฐฯ ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” สำหรับผู้ที่ไม่มีเอกสารถูกต้อง
ภายใต้คำสั่งฝ่ายบริหารนี้ รัฐบาลกลางจะให้ เงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน สำหรับผู้อพยพที่สมัครใจเดินทางกลับประเทศ พร้อมกับมอบ “โบนัสขาออก” (exit bonus)
อย่างไรก็ตาม คำสั่งนี้ไม่ได้ระบุชัดว่า การเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ DHS จะใช้งบประมาณจากแหล่งใด
ปัจจุบัน หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องผู้อพยพโดยตรงคือ ICE (Immigrations and Customs Enforcement) ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 21,000 คน โดยในจำนวนนี้ มีเจ้าหน้าที่เนรเทศประมาณ 6,100 คน และผู้ช่วยด้านการเนรเทศอีก 750 คน ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของหน่วยงาน
ทรัมป์เคยเสนอให้ ตำรวจท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ และกองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) เข้ามาช่วยในการบังคับใช้กฎหมายผู้อพยพ โดยในคำสั่งล่าสุด ระบุว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิควรว่าจ้างหรือแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากตำรวจท้องถิ่น อดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง หรือเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานกลางอื่น ๆ เพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่
การเพิ่มเจ้าหน้าที่นี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์หลากหลายของทรัมป์ เพื่อเร่งให้ผู้อพยพผิดกฎหมายออกนอกประเทศ โดยทรัมป์ได้เปิดตัวแอปพลิเคชันของรัฐบาลชื่อ CPB Home สำหรับการขอเดินทางออกด้วยตนเอง
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คริสตี โนม รัฐมนตรีว่าการกระทรวง DHS ประกาศให้ โบนัส 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 32,930 บาท และออกค่าเดินทางให้ สำหรับผู้ที่ออกจากสหรัฐฯ โดยสมัครใจ
มาตรการเนรเทศแบบอื่น ๆ หลายแนวทางของรัฐบาลทรัมป์ถูกท้าทายและถูกศาลรัฐบาลกลางระงับ เช่น การใช้อำนาจตามกฎหมาย Alien Enemies Act ที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เพื่อเนรเทศผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรม
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลาง เฟอร์นันโด โรดริเกซ ในรัฐเท็กซัส ซึ่งทรัมป์เป็นผู้แต่งตั้ง ตัดสินว่าการใช้กฎหมายดังกล่าวนั้น “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” และผู้พิพากษาอีกคนในนิวยอร์กก็มีคำตัดสินในทำนองเดียวกัน ทรัมป์ตั้งชื่อแผนนี้ว่า “Project Homecoming” หรือ “โครงการคืนบ้าน” โดยผู้ที่อยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายจะต้องเจอกับบทลงโทษรุนแรง เช่น โทษจำคุก ค่าปรับสูง การยึดทรัพย์ทั้งหมด การหักเงินเดือน การควบคุมตัว และการเนรเทศโดยทันที โดยรัฐจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะส่งไปที่ไหนและเมื่อใด