อุกอาจ! 2 โจรแสบ บุกขโมยสัญญาณไซเรนรถดับเพลิงถึงในสถานี หลบหนีลอยนวล
2 คนร้าย บุกขโมยสัญญาณไซเรนรถดับเพลิงถึงในสถานี หลบหนีลอยนวล เจ้าหน้าที่เชื่อขโมยตามใบสั่ง เนื่องจากราคาแพง
เมื่อเวลา 01.14 นาฬิกา วันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่หัวขโมย 2 คน ย่องเข้ามาขโมยสัญญาณไซเรนของรถดับเพลิงที่จอดอยู่ ภายในสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองปากแพรก จ.กาญจนบุรี
โดยจุดแรกกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายคนที่ 1 สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ปีนขึ้นไปที่ด้านบนของรถน้ำ เพื่อขโมยเอาสัญญาณไซเรนที่ติดอยู่ด้านบนรถ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถขโมยไปได้สำเร็จ
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกตัว จับภาพคนร้ายรายที่ 2 ย่องเข้ามาขโมยเอาสัญญาณไซเรน ที่ติดอยู่บริเวณด้านหน้าของรถดับเพลิง ขณะที่คนร้ายกำลังพยายามไขน็อตที่ล็อกสัญญาณไซเรนกับตัวรถอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ประจําสถานีดับเพลิงออกมาเจอคนร้ายกำลังก่อเหตุพอดี จึงใช้อาวุธปืนจี้ไปที่คนร้ายและบอกให้หมอบลง แต่คนร้ายกลับวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
นายวิทยา สมจริยา หัวหน้าฝ่ายปกครองสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองปากแพรก กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ขณะที่ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองปากแพรกรวม 4 คนกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในอาคารสำนักงาน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่ามาจากด้านหน้าสถานีอย่างผิดปกติ จึงตัดสินใจเปิดกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือดู และพบชาย 2 รายเดินเข้ามาภายในบริเวณที่จอดรถดับเพลิง ก่อนที่ชายทั้ง 2 รายจะแยกย้ายกันไปก่อเหตุขโมยเอาสัญญาณไซเรนที่ติดตั้งอยู่ที่รถน้ำและรถดับเพลิง
นายวิทยา กล่าวต่อว่า เมื่อเห็นว่ากำลังจะถูกขโมยสัญญาณไซเรน จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนประจำตัวออกไปจับคนร้าย เมื่อไปถึงคนร้ายที่กำลังถอดน็อตที่ล็อกสัญญาณไซเรนกับตัวรถ ตนได้ใช้อาวุธปืนจี้ไปที่คนร้ายและตะโกนให้หมอบลงกับพื้น แต่คนร้ายกลับวิ่งหลบหนีออกไปขึ้นรถยนต์เก๋งสีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่มีการจอดติดเครื่องรออยู่ริมถนน ก่อนจะขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
นายวิทยา กล่าวอีกว่า สัญญาณไซเรนที่ถูกขโมยไปนั้น มีราคาประมาณชิ้นละ 5,000 บาท เชื่อว่ากลุ่มหัวขโมยที่เข้ามา น่าจะมาก่อเหตุตามใบสั่ง โดยมุ่งเน้นขโมยแต่สัญญาณไฟเรนเพียงอย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันสัญญาณไซเรนดังกล่าว มักมีผู้นิยมนำไปติดกับรถบัสหรือรถบรรทุก 10 ล้อ จึงทำให้สัญญาณไซเรนมักถูกขโมยอยู่บ่อยครั้ง
นายวิทยา กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ ทางสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองปากแพรกจะได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ที่อยู่เฝ้าสถานีในตอนกลางคืนให้มากขึ้น รวมถึงจะรวบรวมภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดมอบหมายให้กับเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความในวันที่ 21 ก.ย. เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป