ค่ายรถยนต์ในสหรัฐฯ เรียกร้องให้ทรัมป์ งดเว้นภาษีหุ่นยนต์ในโรงงานผลิตรถยนต์ หวั่นกระทบต้นทุนการผลิต

วันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา กลุ่มตัวแทนผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เกือบทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาได้ออกโรงเรียกร้องอย่างเร่งด่วนต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ให้มีการกำหนดภาษีศุลกากรสำหรับหุ่นยนต์และเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ใช้ในโรงงาน 

โดยกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์เตือนว่า การเก็บภาษีดังกล่าวจะเพิ่มต้นทุนการผลิตโดยรวม และมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความล่าช้าในการผลิต การขาดแคลนยานพาหนะ และราคารถยนต์สำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกันสูงขึ้น ในขณะที่ราคาซื้อรถใหม่ในปัจจุบันก็อยู่ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว

Alliance for Automotive Innovation (AAI) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลักๆ เช่น General Motors, Toyota, Volkswagen, และ Hyundai ได้ยื่นข้อคิดเห็นต่อรัฐบาลหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งการสอบสวนในลักษณะนี้รัฐบาลสามารถใช้เป็นช่องทางในการกำหนดภาษีได้

คำเตือนถึงผลกระทบต่อการผลิตและผู้บริโภค

โดยทาง AAI เน้นย้ำว่า การเพิ่มต้นทุนของอุปกรณ์ในโรงงานที่มีอยู่จะส่งผลโดยตรงต่อการลงทุนและต้นทุนการดำเนินงาน ข้อความที่เผยแพร่ระบุว่า 

“การเพิ่มต้นทุนอุปกรณ์ในโรงงานที่มีอยู่จะเพิ่มต้นทุนการผลิตโดยรวมสำหรับผู้ผลิตรถยนต์, อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการผลิต, และอาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลนยานพาหนะ และราคาซื้อรถใหม่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกัน”

กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ยังได้อ้างถึงงานวิจัยที่ชี้ว่า ประมาณ 40% ของการติดตั้งหุ่นยนต์และเครื่องจักรอุตสาหกรรมทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาในปี 2567 อยู่ในโรงงานผลิตรถยนต์ 

ด้วยสัดส่วนที่สูงนี้ จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงด้านภาษีใด ๆ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการผลิตรถยนต์ภายในประเทศ ผู้ผลิตรถยนต์เรียกร้องว่า หากรัฐบาลตัดสินใจกำหนดภาษีจริง ควรยกเว้นหุ่นยนต์ที่ใช้ในการผลิตภายในประเทศสหรัฐฯ เพื่อจำกัดผลกระทบเชิงลบต่อห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ

เทสลาและภาคส่วนอื่นเข้าร่วมคัดค้าน

บริษัท Tesla ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่ม AAI ก็ได้เรียกร้องแยกต่างหากให้รัฐบาลทรัมป์ไม่กำหนดภาษี โดยกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวอาจ "บ่อนทำลายการลงทุน หยุดโรงงานใหม่ หรือการอัพเกรดโรงงานที่มีอยู่"

นอกจากนี้ การคัดค้านไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในอุตสาหกรรมรถยนต์เท่านั้น:

สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ (National Retail Federation - NRF) ได้ออกมาเตือนว่า ภาษีและการขาดแคลนจะผลักดันให้ต้นทุนและราคาผู้บริโภคสูงขึ้น โดยระบุว่าสมาชิกของพวกเขากำลังใช้หุ่นยนต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในร้านค้า คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า

หอการค้าสหรัฐฯ (US Chamber of Commerce) กล่าวว่า "เครื่องจักรที่สำคัญบางอย่างผลิตในต่างประเทศเท่านั้น เช่น อุปกรณ์สำหรับ extreme ultraviolet lithography ที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์" กลุ่มธุรกิจนี้กล่าวเตือนว่าภาษีอาจ "บ่อนทำลายศักยภาพการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศที่รัฐบาลพยายามสร้างขึ้น"

รัฐบาลต่างประเทศหลายแห่ง ได้แก่ จีน แคนาดา ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ และสหภาพยุโรป ได้ยื่นข้อคิดเห็นเพื่อคัดค้านการเก็บภาษีดังกล่าว

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอแสดงความคิดเห็นในทันที การคัดค้านภาษีหุ่นยนต์เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศภาษี 25% สำหรับรถกระบะขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับภาษีหุ่นยนต์และเครื่องจักรจะขึ้นอยู่กับผลการสรุปของการสอบสวนของกระทรวงพาณิชย์