นายกฯ ฝรั่งเศสถูกลงมติไม่ไว้วางใจ หลุดจากตำแหน่ง

รัฐสภาฝรั่งเศสลงมติถอดถอน ฟรองซัวส์ บายรู ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมโค่นล้มรัฐบาล จากแผนควบคุมหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น ยิ่งทำให้วิกฤตการเมืองฝรั่งเศสทวีความรุนแรง และบีบให้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ต้องเผชิญภารกิจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นครั้งที่ 5 ในรอบไม่ถึง 2 ปี
บายรู วัย 74 ปี เพิ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาได้เพียง 9 เดือน ก่อนที่จะถูกลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งทำให้เขาจำเป็นต้องยื่นลาออก และเปิดทางให้มาครงซึ่งมีทางเลือกไม่มากนัก ต้องเลือกนายกฯ คนใหม่ ท่ามกลางแรงกดดันจากตลาดการเงินที่เริ่มกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองและการคลัง
มติครั้งนี้เกิดขึ้นหลังบายรูเสนอให้รัฐสภาลงคะแนนอย่างไม่คาดคิด เพื่อผลักดันแผนลดการขาดดุลที่สูงเกือบสองเท่าของเพดานร้อยละ 3 ตามกฎสหภาพยุโรป และจัดการกับหนี้สาธารณะที่แตะระดับร้อยละ 114 ของจีดีพี
อย่างไรก็ตาม พรรคฝ่ายค้านไม่สนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัดมูลค่า 44,000 ล้านยูโร ที่จะนำไปใช้ในงบประมาณปีหน้า โดยเฉพาะในบรรยากาศการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2570 กำลังใกล้เข้ามา
สำหรับขั้นตอนต่อไป มาครงอาจเลือกแต่งตั้งนักการเมืองสายกลางจากพรรคของตนเอง ซึ่งมีเสียงข้างน้อยในรัฐสภา หรือหาจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม แต่ทั้งสองทางเลือกยังสะท้อนถึงข้อจำกัดเดิม ที่ยังไม่สามารถสร้างเสถียรภาพของรัฐบาลได้สำเร็จ
ด้านนายกรัฐมนตรีบายรู กล่าวปกป้องรัฐบาลว่า เป็นรัฐบาลที่มีเกียรติและกระตือรือร้น ซึ่งถือเป็นคำพูดสุดท้าย ระหว่างการตอบโต้กับสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้าน ก่อนจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง ในการลงมติไม่ไว้วางใจเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดของรัฐบาลภายใต้การนำของเขา
บายรู ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของประธานาธิบดีมาครง ในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี เป็นผู้เสนอให้มีการลงมติไว้วางใจครั้งนี้ เนื่องจากฝรั่งเศสกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก ให้เร่งแก้ไขปัญหาทางการคลังดังกล่าว
ก่อนการลงมติ มาธิลด์ เปรอโวต์ สมาชิกสภาผู้แทนฯ จากพรรคลา ฟรองซ์ อองซูมิส (La France Insoumise) หรือพรรคฝรั่งเศสผู้ไม่ยอมจำนน (France Unbowed - LFI) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย กล่าวว่า การพ้นจากตำแหน่งของบายรู ควรตามมาด้วยการลงจากตำแหน่งของประธานาธิบดีมาครง
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า “ประธานาธิบดีไม่มีความประสงค์จะเปลี่ยนนโยบาย ดังนั้น เราจึงต้องเปลี่ยนตัวประธานาธิบดี”
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
