สาริกา จ.นครนายก ปกติแล้ว หลังเจอน้ำป่าทะลัก ผู้ประกอบการเร่งเคลียร์พื้นที่รับนักท่องเที่ยว

25 สิงหาคม ที่แก่งสามชั้น ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก นายชุมพลภัทร์ เลาหะพานิช นายก อบต.สาริกา เข้าไปดูพื้นที่ พร้อมพูดคุยกับผู้ประกอบการหลังเกิดน้ำป่าไหลหลาก เบื้องต้นพบว่าระดับน้ำได้ลดระดับลงแค่ขอบตลิ่ง และมีแนวโน้มลดระดับลงเรื่อยๆ เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำตั้งแต่ช่วงสายวันนี้

จากนั้นได้เดินทางไปยังสะพานวังตะไคร้ ซึ่งเป็นจุดโครงการเฝ้าระวังและเตือนภัยพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม สถานีเตือนภัย มู่ 1 บ้านดง ต.สาริกา อ.เมือง ปรากฏว่าไม่มีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นเหมือนตอนเช้า ประกอบกับระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับตอนที่ระดับน้ำขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 30.476 เมตร และลดลงมาตอนเวลา 10.30 น. อยู่ที่ 28.706 เมตร โดยใช้ระยะเวลา 4 ชั่วโมง ระดับน้ำลงไปถึง 1.77 เมตร และขณะนี้ก็มีแนวโน้มลดลง

ขณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าริมน้ำคลองวังตะไคร้ บริเวณใต้สะพาน ได้ออกมาทำความสะอาดร้าน ฉีดล้างดินโคลนที่ถูกกระแสน้ำพัดมากองไว้ หลังระดับน้ำลดลงจนต่ำกว่าขอบตลิ่ง โดยมีรถน้ำจาก อบต.สาริกา มาช่วยสนับสนุนฉีดน้ำ อีกทั้งมีกองกำลังทหารจากโรงเรียน จปร. มาช่วยชาวบ้านด้วยเช่นกัน

น.ส.ฐิติพร มีมงคล เจ้าของร้านข้าวโอ๊ตริมคลองวังตะไคร้ บอกว่า น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมเวลา 05.00 น. ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะน้ำป่ามาเร็วลดเร็ว หลังจากเกิดเหตุประมาณ 2 ชั่วโมง ระดับน้ำก็ลดลงไปมากกว่า 1 เมตร ตอนที่น้ำไหลเข้าท่วมอยู่ระดับหน้าอก (1 -1.2 เมตร) แต่เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงระดับน้ำก็ลดลงแล้ว ตอนนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว (เวลา 14.48 น.)

น.ส.ฐิติพรกล่าวว่า อยากให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวปกติ เพราะหลังจากเกิดน้ำป่าไม่กี่ชั่วโมงก็จะกลับสู่สภาวะปกติ ที่สำคัญน้ำจะใส ซึ่งเหตุการณ์น้ำป่าจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี พวกเราชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมน้ำจะมีความเคยชินกับเหตุการณ์เช่นนี้

นายชุมพลภัทร์กล่าวว่า ขณะนี้เวลา 14.00 น. สถานการณ์ในพื้นที่ ต.สาริกา กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ด้วยพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งต้นน้ำและพื้นที่สูงทำให้ตอนนี้มวลน้ำไหลลงไปพื้นที่ด้านล่างเกือบหมดแล้ว ผู้ประกอบการร้านค้า รีสอร์ทตที่อยู่ติดริมน้ำเริ่มทำความสะอาดร้าน เพื่อเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในวันหยุดที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำจะได้เห็นน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ มีสีใส

นายชุมพลภัทร์กล่าวว่า สำหรับความเสียหายนั้น อบต.สาริกา ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่พบว่ามีน้ำไหลเข้าท่วมรถบ้าง แต่ไม่ได้เป็นปัญหา และไม่นานระดับน้ำก็ลดลง ทำให้ไม่มีความเสียหาย ฝั่งผู้ประกอบการมีข้าวของนิดหน่อยลอยตามกระแสน้ำ และวันพรุ่งนี้ผู้ประกอบการร้านค้าริมน้ำก็จะกลับมาเปิดบริการนักท่องเที่ยวได้ปกติ ทั้งนี้ อบต.สาริกา มีศูนย์บริการคอยรับแจ้งเหตุ โดยมีรองนายก อบต.สาริกา เป็นผู้บัญชาการศูนย์ คาดว่าเวลา 4-5 โมงเย็นนี้ทุกอย่างก็จะกลับสู่สภาวะปกติ ไม่มีน้ำท่วมขังตามพื้นที่ต่างๆ

ด้าน น้ำตกนางรอง ซึ่งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พบว่าระดับน้ำที่ไหลผ่านสะพานช่วงก่อนเข้าน้ำตกเริ่มเบาลงแล้ว อย่างไรก็ตาม น้ำตกนางรองได้ติดป้ายประกาศไม่ให้นักท่องเที่ยว หรือบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน โดยภาพที่บันทึกไว้ตอนเวลา 12.30 น. พบว่าความแรงของกระแสน้ำที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ลงสู่น้ำตกนางรองยังมีความแรงอยู่พอสมควร ทำให้น้ำมีสีแดงขุ่น อีกทั้งเจ้าหน้าได้ปักธงแดง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนห้ามเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมป้ายเตือนว่าเมื่อเห็นน้ำในลำธารขึ้นเป็นสีแดง หรือได้ยินเสียงแจ้งเตือนให้ขึ้นจากน้ำโดยทันที

ส่วน สะพานเขานางบวช-คีรีวัน ซึ่งเป็นสถานีวัดน้ำชื่อ Ny1b เมื่อเวลา 14.30 น. สามารถตรวจวัดได้ 9.001 เมตร ล้นตลิ่งอยู่ที่ 19 เซนติเมตร โดยมีระดับน้ำขึ้นสูงสุดเวลา 13.30 น. อยู่ที่ 9.022 เมตร จากนั้นระดับน้ำได้เริ่มลดลงตามลำดับ ขณะนี้ยังอยู่ในระดับวิกฤต (สีแดง 8.00 เมตร ระดับเตือนภัย-สีเหลือง 7.50 เมตร)