DMTดีมานด์ใช้ทางด่วน พุ่งทะลุ1แสนคันต่อวัน

DMT แย้มปริมาณเจรจาไตรมาส 2/2566 ขยายตัว ทะลุ1 แสนคันต่อวัน การเดินทางคึกคัก พร้อมฤดูฝนหนุนปริมาณการใช้ทางด่วนเพิ่ม คาดการณ์ว่าปริมาณการจราจรโดยเฉลี่ยรวมของทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่าระดับ 110,000 คันต่อวัน ส่วนการประมูลโครงการ รอความชัดเจนจากรัฐบาลใหม่
ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยว่า ปริมาณการจราจร ขณะนี้ปรับตัวที่ขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าไตรมาส 2/2566 ผลประกอบการจะมากกว่าไตรมาส 1/2566 ที่ จากไตรมาส 1/2566 ที่มีปริมาณจราจรโดยเฉลี่ยต่อวันรวม 108,000 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 58% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน แม้ว่าในช่วงเดือนเมษายน จะมีวันหยุดเยอะ แต่เห็นการฟื้นตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 101,000 คันต่อวัน แล้ว และในช่วงเดือนมิถุนายนก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 101,000 คันต่อวัน
ฤดูฝนหนุนใช้ทางด่วน
โดยปัจจัยบวกมาจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบของไทย ทำให้เห็นการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่มากขึ้น รวมถึงความต้องการอุปโภคและบริโภค ที่ทำให้ปริมาณการขนส่งเคลื่อนย้ายโดยเฉพาะทางบกเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ตลอดจนการเปิดภาคเรียนใหม่ที่ส่งผลให้แนวโน้ม รวมไปถึงขณะนี้ฤดูฝน ส่งผลให้ความต้องการใช้ทางด่วนปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นบริษัทคาดการณ์ว่าปริมาณการจราจรโดยเฉลี่ยรวมของทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่าระดับ 110,000 คันต่อวัน
“ขณะนี้ตัวเลขปริมาณจราจรดีขึ้นต่อเนื่อง อย่างในไตรมาส 2/2566 แม้ว่าในเดือนเมษายน วันหยุดเยอะ แต่ในช่วงเดือนพฤษภาคม ก็ดีขึ้น และเดือนมิถุนายนก็เปิดเต็มที่ ทำให้ตัวเลขเกินระดับ 1 แสนคันต่อวันแล้ว ดังนั้นปีนี้ผลประกอบน่าจะทำได้ตามเป้าหมาย และประปริมาณการจราจรคาดว่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่าระดับ 110,000 คันต่อวัน การเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ “ดร.ศักดิ์ดา กล่าว
*รายได้อื่นๆ หนุนงบ
อีกทั้งการใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงปัจจุบันพบว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางรวมการเดินทางเชื่อมต่อและเข้าถึงสถานี (Feeder) ยังสูงกว่าการใช้ทางยกระดับ คาดการณ์ว่า ยังไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทาง และอยู่ในการติดตามพฤติกรรมการเดินทาง โดยรอบทางยกระดับดอนเมืองของบริษัท โดยรูปแบบการเดินทางโดยรถยนต์ยังคงมีความจำเป็นในระบบ คมนาคมขนส่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้ง นโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้ยอดจดทะเบียน รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการเดินทางด้วยรถยนต์ต่ำลงอีกด้วย ดังนั้นทั้งปี 2566 เติบโตมากกว่า 30% จากปีก่อน
ด้านบริษัท เอ สยาม อินฟรา จำกัด (ASIAM INFRA) ที่เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) บริษัท ฮันชินเอ็กซ์เพรสเวย์ จำกัด บริษัท อาครอสเทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท เคเอฟซี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่น ในการตรวจสอบและบำรุงรักษาสะพาน ทางด่วน ตลอดจนทางยกระดับ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ปัจจุบันมีโครงการที่ดูแล 12 โครงการ คาดว่าปีนี้จะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทราว 10-50 ล้านบาท และคาดจะเพิ่มเป็น 50-100 ล้านบาท ปี 2567 และอนาคตเชื่อว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
จับตาประมูลงาน
ส่วนการประมูลโครงการของบริษัทั้งในส่วนของโครงการได้แก่ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุขช่วงรังสิต – บางปะอิน (M5) ระยะทาง 22 กิโลเมตร ,โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ทางยกระดับสายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ช่วงบางขุนเทียน - บางบัวทอง (M9) อยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากทางภาครัฐ
ยอดนิยมในตอนนี้
