โกลด์แมนแซคส์ประเมินสหรัฐฯ เศรษฐกิจถดถอย มีโอกาสน้อยลง

#หุ้นต่างประเทศ #ทันหุ้น - บล.อินโนเวสท์เอกซ์เผยแพร่ข้อมูล 5 ประเด็นสำคัญที่คุณต้องรู้ สำหรับวันนี้ (20 สิงหาคม 2567)

.

1. S&P 500 เริ่มสัปดาห์สวยๆ ด้วยการยืนเหนือ 5600 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าปรับตัวบวกได้ราว 0.58% ปิด ณ ระดับ 5608.25 จุด สอดคล้องกับดัชนี NASDAQ +1.37% ณ ระดับ 17873.38 จุด เช่นกัน การพลิกฟื้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในปัจจุบันดันมูลค่าตลาดทะลุ 3 ล้านล้านเหรียญไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากมีการปรับตัวลดลงในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สาเหตุหลักยังเป็นมุมมองของนักลงทุนที่คาดหวังต่อการส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมแจ็กสันโฮลช่วงปลายสัปดาห์

.

2.โกลด์แมนแซคส์ประเมินโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยลดลงโดยแบบจำลองทางเศรษฐมิติของโกลด์แมนแซคส์สะท้อนโอกาสในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้าลดลงจากเดิม 25% สู่ระดับ 20% หลังตัวเลขค้าปลีกและการยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เบื้องต้นนักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมนแซคส์ระบุว่าโอกาสในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมีโอกาสจะปรับตัวลดลงแตะระดับ 15% ได้ในช่วงต้นเดือนกันยายน หากตัวเลขการจ้างงานออกมาฟื้นตัวดีขึ้น เป็นการเน้นยำข้อความที่ทางหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมนแซคส์เคยระบุว่านักลงทุนกังวลกับตัวเลขการชะลอตัวของตลาดแรงงานมากเกินไปในช่วงก่อนหน้านี้

.

3.GM เลิกจ้างพนักงานประจำทั่วโลกราว 1,000 คน โดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสหรัฐฯ อย่าง GM ได้มีการประกาศลดพนักงานอีกครั้ง หลังได้เริ่มมีแผนการลดต้นทุนและปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในช่วงที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ได้มีการเลิกจ้างพนักงานราว 1,000 คน ทั่วโลกในแผนกซอฟต์แวร์และการบริการ โดยจะแบ่งเป็นพนักงานใกล้เมืองดีทรอยต์ราว 600 ราย และอีก 400 ทั่วโลก การเลิกจ้างดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนราว 1.3% ของพนักงานประจำทั่วโลก ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดราว 76,000 คน ณ สิ้นปีที่แล้ว การเลิกจ้างดังกล่าวเป็นการสะท้อนความพยายามรัดเข็มขัดของอุตสาหกรรมยานยนต์อันเนื่องมาจากการแข่งขันที่ดุเดือด

4.แฮร์ริสชูนโยบายขึ้นภาษีนิติบุคคล 28%ด้านการหาเสียงของตัวแทนพรรคเดโมแครต กมลา แฮร์ริส ได้มีการชูนโยบายการขึ้นภาษีนิติบุคคลกลับไปที่ 28% เพื่อลดการขาดดุลการคลังของสหรัฐฯ และเพื่อเป็นการกระจายรายได้กลับเข้าไปสู่สังคม เบื้องต้นด้านสำนักงบประมาณรัฐสภาสหรัฐฯ เคยประเมินไว้ว่า ทุกครั้งที่มีการขึ้นภาษีนิติบุคคลราว 1% จะทำให้รายได้เข้ารัฐประมาณ 1 แสนล้านเหรียญไปอีก 10 กว่าปี นโยบายภาษีของแฮร์ริสนั้นถือเป็นการสวนทางกับนโยบายของทรัมป์ เนื่องจากนโยบายดั้งเดิมที่ทางทรัมป์พยายามผลักดันคือการยืดอายุการลดภาษีในปี 2017 จากเดิม 35% สู่ระดับ 21% และในครั้งนี้แฮร์ริสกำลังเสนอให้ปรับกลับจาก 21% ไปสู่ 28% อีกครั้ง

.

5.อินเดียเยือนกรุงเคียฟ ระบุจะไม่แทรกแซงปัญหาระหว่าง 2 ประเทศสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าผู้นำอินเดีย นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียมีกำหนดเดินทางเยือนกรุงเคียฟในวันศุกร์นี้ แต่ปฏิเสธที่จะทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยเพื่อยุติสงครามในยูเครนของรัสเซีย ซึ่งการเยือนดังกล่าวนั้นเกิดขึ้น หลังโมดีได้ไปเยือนรัสเซียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาและเป็นการเยือนหลังยูเครนเดินหน้าโต้กลับรัสเซีย ผู้นำอินเดียระบุว่าการเยือนครั้งนี้ ตนจะทำหน้าที่เพียงการส่งต่อข้อความระหว่างวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียและโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของอินเดียเรียกร้องให้มีการหารือและการทูตเพื่อยุติสงคราม ซึ่งเป็นจุดบ่งชี้ว่าทางการอินเดียพยายามรักษาสมดุลความสัมพันธ์สามเส้านี้ระหว่างรัสเซีย-สหรัฐฯ และอินเดียอย่างระมัดระวัง

ประเด็นที่ต้องติดตาม: ติดตามการประกาศดอกเบี้ย LPR 5Y จากจีน โดยคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้จากช่วงก่อนหน้าที่ 3.85% ,การรายงานเงินเฟ้อของยุโรป โดยคาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะออกมาที่ 2.9% ทรงตัวจากช่วงก่อนหน้าและเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะรายงานออกมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.6% จากช่วงก่อนหน้าที่ 2.5%

..

มุมมองการลงทุน INVX – ตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ หลังการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมายังสะท้อนภาพการเติบโต ประกอบกับตัวแปรสำคัญอย่างการประชุม Jackson hole นั้นจะเกิดขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ ในขณะที่การรายงาน FOMC minute หากไม่มีประเด็นใหม่จะไม่มีผลกระทบต่อตลาด

สำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาว (3-6 เดือนและ 12 เดือนขึ้นไป) นั้นทาง INVX แนะนำทยอยสะสมการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ระหว่างการปรับฐาน และปรับพอร์ตเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่จะได้รับประโยชน์ในช่วงหลังการเลือกตั้งของสหรัฐฯ อย่างตลาดหุ้นเวียดนามและทองคำ

.

สำหรับคำแนะนำการลงทุนระยะสั้น (<1 – 3 เดือน)ด้านราคาทองคำมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้น หลังทิศทางดอกเบี้ยมีความชัดเจนมากขึ้นประกอบกับเศรษฐกิจโดยรวมยังคงเติบโตได้ โดยเราแนะนำเข้าลงทุนผ่านกองทุน BGOLD และลงทุนในกองทุนเทคโนโลยีสหรัฐฯ หลัง Valuation กลับมาน่าสนใจสวนทางกับกำไรที่โต ผ่านกองทุน KKP NDQ100-UH โดยมีดัชนีอ้างอิงอย่างดัชนี Nasdaq 100 และกำหนดจุดตัดขาดทุนเมื่อราคาต่ำกว่า 16,500 จุด