ธปท.ยัน "เงินลึกลับ" ไม่กดดันบาทแข็ง

ดร.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่า เงินบาทที่แข็งค่ามาก ไม่ได้มาจากตัวเลขที่แสดงความคลาดเคลื่อนเชิงสถิติ หรือ Net Errors and Omissions (NEO) ที่สูงขึ้น เพราะตัวเลขดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในดุลการชำระเงินที่เกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถแจกแจงได้ว่าธุรกรรมเกิดขึ้นจากกิจกรรมใด จึงถูกบันทึกเป็นตัวเลขความคาดเคลื่อนฯ
เช่น นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยแล้วนำเงินตราต่างประเทศมาแลกเป็นเงินบาท แล้วนำเงินบาทไปใช้จ่าย กรณีนี้ธปท.จะเห็นเฉพาะเงินตราต่างประเทศที่นักท่องเที่ยวนำมาแลกเป็นเงินบาท (Flow) ผ่านสถาบันการเงิน แต่ไม่รู้ว่านำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ซึ่งต้องประมาณการจาก model ก่อนที่จะสอบทานกับข้อมูลการสำรวจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นอกจากนี้ ธปท.จะเผยแพร่ข้อมูลดุลการชำระเงินรายปีที่ปรับปรุงแล้ว 2 ครั้ง คือในเดือนมีนาคมของปีถัดไป (ตัวเลขเบื้องต้น) และในทุกเดือนกันยายน (เพื่อเผยแพร่) ซึ่งจะทำให้เห็นตัวเลขความคลาดเคลื่อนฯมีการปรับปรุงชัดเจนขึ้น
โดยข้อมูลดุลการชำระเงินในปี 2567 จากการปรับปรุงครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2568 พบว่าตัวเลขความคาดเคลื่อนเชิงสถิติอยู่ที่ 15,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5 แสนล้านบาท) และตัวเลขที่ปรับปรุงล่าสุดในเดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 7,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.3 แสนล้านบาท) ปรับลดลงมากว่าครึ่งจาก 15,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ตัวเลขที่แสดงความคาดเคลื่อนเชิงสถิติสูงหรือไม่ โฆษกธปท.กล่าวว่า ควรดูเป็นสัดส่วนต่อมูลค่าการค้าระหว่างประเทศโดยรวม เนื่องจากทั่วไปประเทศที่มีการค้าขายและการลงทุนระหว่างประเทศสูง จะมีตัวเลขความคาดเคลื่อนเชิงสถิติสูงตามไปด้วย ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวของไทยในปี 2567 อยู่ที่ร้อยละ 1 น้อยกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ที่ร้อยละ 1.3 และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศทั่วโลกที่ประมาณร้อยละ 2.4
โฆษกธปท.ระบุด้วยว่า ตัวเลขความคลาดเคลื่อนเชิงสถิติดังกล่าว เป็นคนละเรื่องกับการบ่งชี้ว่ามาจากธุรกิจสีเทา แต่ยอมรับตัวเลขความคลาดเคลื่อนฯ ที่ไม่สามารถระบุธุรกรรมได้อาจมาจากธุรกรรมสีเทา ซึ่งการตรวจสอบว่าเป็นธุรกรรมสีเทาหรือไม่ เป็นหน้าที่ของสำนักงาน ปปง.
ขณะที่ ธปท. มีบทบาทในการกำกับดูแลให้สถาบันการเงินปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) ที่สำนักงาน ปปง. กำหนดและรายงานธุรกรรมต้องสงสัยต่อสำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
สำหรับการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงนี้ โฆษกธปท.ย้ำว่ามาจากเงินดอลลาร์อ่อนเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันไทยยังเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ราคาทองคำปรับสูงขึ้น และการเมืองไทยมีเสถียรภาพ ทั้งนี้สัปดาห์หน้าธปท.จะหารือผู้ค้าทองคำอีกครั้งเพื่อหาแนวทางให้การซื้อขายทองคำไม่กดดันค่าเงินบาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
