กว่างซีเล็งใช้ประโยชน์ 'ฟรีวีซ่า' เพิ่มกระแส 'เที่ยวจีน เที่ยวไทย'
(แฟ้มภาพซินหัว : มัคคุเทศก์ผู้ถือบัตรโดยสารและหนังสือเดินทางอธิบายข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวที่ท่าอากาศยานนานาชาติหนานหนิง อู๋ซวี ในนครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน) หนานหนิง, 8 ก.พ. (ซินหัว) -- ห้วงยามจีนและไทยเตรียมก้าวสู่ "ยุคปลอดวีซ่า" ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. นี้ ผู้คนแวดวงอุตสาหกรรมมองว่านโยบายฟรีวีซ่าจะเพิ่มความสะดวกสบายแก่ประชาชนของสองประเทศในการเจรจาหารือทางธุรกิจ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงเร่งรัดการฟื้นฟูการท่องเที่ยวข้ามพรมแดนระหว่างจีนและกลุ่มประเทศอาเซียนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นภูมิภาคระดับมณฑลแห่งเดียวของจีนที่เชื่อมต่อกับกลุ่มประเทศอาเซียนทั้งทางบกและทางทะเล มีความใกล้ชิดกับไทยในทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี และมิตรภาพดั้งเดิม โดยทั้งสองฝ่ายถือเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวและจุดหมายท่องเที่ยวของกันและกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหวังเซิน พนักงานของเอเจนซีการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง เผยว่านโยบายฟรีวีซ่าซึ่งกันและกันไม่เพียงลดทอนขั้นตอนยุ่งยากในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากสองประเทศ แต่ยังเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้คนแวดวงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และอัดฉีดพลังความคึกคักสู่ตลาดการท่องเที่ยวหวังย้อนว่าก่อนหน้านี้ที่ไทยดำเนินนโยบายฟรีวีซ่าแก่พลเมืองจีนเป็นการชั่วคราวในปี 2023 ได้ดึงดูดชาวจีนเดินทางเที่ยวไทยเป็นจำนวนมาก ส่วนข่าวนโยบายฟรีวีซ่าซึ่งกันและกันมาในช่วงหยุดเทศกาลตรุษจีนพอดี ทำให้ไทยกลายเป็นที่สนใจในหมู่นักท่องเที่ยวยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังดึงดูดใจชาวไทยมาเที่ยวจีนจนตอนนี้มัคคุเทศก์ภาษาไทยเป็นที่ต้องการอย่างมากทั้งนี้ ปัจจุบันบรรดาเอเจนซีการท่องเที่ยวภายในจีนพากันใช้เส้นทางการท่องเที่ยวดั้งเดิมเป็นรากฐานต่อยอดในการสร้างสรรค์และพัฒนา "ของใหม่" ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นตัวอย่างเช่นกว่างซีอาศัยสถาปัตยกรรมเมืองสมัยใหม่ในเมืองหนานหนิงและหลิ่วโจวมาสร้างผลิตภัณฑ์ "เที่ยวเมือง" ที่มีแกนหลักเป็นตึกสูงระฟ้า แหล่งชอปปิงตามสถานีรถไฟใต้ดิน และแสงสียามราตรี หรืออาศัยอัตลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่นมาสร้างแบรนด์การท่องเที่ยวที่มีแกนหลักเป็นการเต้นระบำพื้นบ้านและมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อยขณะเดียวกันจีนยังเป็นหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวน้ำแข็งและหิมะที่ตั้งอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด ทำให้ภูมิภาคอย่างกว่างซีและอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจากอาเซียน รวมถึงไทย ที่อยากสัมผัสอากาศเย็นฉ่ำจับใจตั้งแต่เข้าสู่ฤดูหนาวที่ผ่านมาณ วันนี้ กว่างซีกำลังเดินหน้าใช้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่าซึ่งกันและกัน เพื่อส่งเสริมการเติบโตของการท่องเที่ยวทั้งในกว่างซีและไทย พร้อมกับยกระดับความน่าดึงดูดใจทางการท่องเที่ยวและบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องโจวโป๋ ผู้อำนวยการและนักวิจัยประจำสถาบันอาเซียน สังกัดสถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์แห่งหนานหนิง กล่าวว่านโยบายฟรีวีซ่าซึ่งกันและกันระหว่างจีนและไทยนั้นเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ซึ่งกว่างซีควรใช้ข้อได้เปรียบจากนโยบายนี้และริเริ่มมาตรการเกื้อหนุนการเดินทางขาเข้า เพื่อพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากอาเซียนและไทย (ภาพจากผู้ให้สัมภาษณ์ : กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนถ่ายภาพที่จุดชมวิวในเมืองพัทยา (แฟ้มภาพซินหัว : เขตความร่วมมือจีน-เวียดนาม เพื่อการท่องเที่ยวข้ามพรมแดนน้ำตกเต๋อเทียน ในเมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน) (แฟ้มภาพซินหัว : หญิงกลุ่มชาติพันธุ์เหยาทำการแสดงสระผมยาวที่อำเภอหลงเซิ่ง เมืองกุ้ยหลิน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน) (แฟ้มภาพซินหัว : สกีรีสอร์ตเทียนหูที่อำเภอเฉวียนโจว เมืองกุ้ยหลิน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน)