นิวซีแลนด์พิจารณาเปิดรับ 'ผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว' เข้าประเทศมากขึ้น
เวลลิงตัน, 13 พ.ค. (ซินหัว) -- หลังจากเปิดพรมแดนระหว่างประเทศกับออสเตรเลียไปแล้วในเดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิดพรมแดนกับหมู่เกาะคุกในอีกไม่นานนี้ เมื่อวันพฤหัสบดี (13 พ.ค.) จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรี นิวซีแลนด์กล่าวว่า นิวซีแลนด์กำลังพิจารณาโอกาสในการเปิดรับผู้เดินทางแบบไม่ต้องกักตัวเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แล้ว
"เป้าหมายของเราตอนนี้คือการเชื่อมโยงชาวนิวซีแลนด์กับผู้คนทั่วโลกอีกครั้ง" เธอระบุในสุนทรพจน์ก่อนกำหนดงบประมาณ
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการทรานส์-แทสมัน บับเบิล (trans-Tasman bubble) หรือการเดินทางระหว่างนิวซีแลนด์และออสเตรเลียแบบไม่ต้องกักตัวเมื่อวันที่ 19 เม.ย. จนถึงตอนนี้ มีผู้คนมากกว่า 70,000 คนแล้วที่บินจากออสเตรเลียมายังนิวซีแลนด์ และมีผู้คนมากกว่า 57,000 คนที่บินจากนิวซีแลนด์ไปยังออสเตรเลีย
ส่วนการเดินทางแบบปลอดการกักตัว ระหว่างหมู่เกาะคุกกับนิวซีแลนด์นั้นจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันจันทร์หน้า (17 พ.ค.)
อาร์เดิร์นยังระบุถึงประเทศนีอูเอ (Niue) ซึ่งเป็นเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ว่าเป็นจุดหมายถัดไปของโครงการดังกล่าว พร้อมย้ำว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเปิดพรมแดนแบบไม่ต้องกักตัวกับประเทศอื่นๆ ด้วย แม้ว่างานนี้อาจมีความเสี่ยงและความซับซ้อนก็ตาม
นายกรัฐมนตรีไม่ได้กล่าวถึงแผนงานเฉพาะใดๆ เพียงแต่ให้สัญญาว่านิวซีแลนด์จะยัง "เปิดใจให้กว้าง" ต่อไป
ทั้งนี้ อาร์เดิร์นจะเป็นผู้นำคณะผู้แทนการค้ากลุ่มหนึ่ง ในการเดินทางไปยังออสเตรเลียในเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของเธอนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ในปีที่แล้ว นอกจากนี้ ในเดือนมิถุนายน เดเมียน โอคอนเนอร์ รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของนิวซีแลนด์มีกำหนดจะเดินทางไปยังลอนดอนและบรัสเซลส์ เพื่อหารือเรื่องข้อตกลงการค้าเสรีกับสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปด้วย