เรือไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกประสบความสำเร็จในการทดสอบแล่นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการเดินเรือระดับโลกได้จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เมื่อ Hull 096 เรือเฟอร์รี่ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประสบความสำเร็จในการทดสอบเครื่องยนต์และการแล่นในทะเลครั้งแรก ณ เมืองโฮบาร์ต รัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย

การทดสอบครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการก้าวเข้าสู่ยุคการขนส่งทางน้ำที่ยั่งยืน

โดยเรือไฟฟ้า Hull 096 มีสเปกสุดล้ำและพลังงานสะอาด ความยาว 130 เมตร ได้รับการออกแบบและสร้างโดยบริษัท Incat Tasmania สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ถึง 2,100 คน และยานพาหนะอีกกว่า 220 คัน ขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าผ่านวอเตอร์เจ็ต (Water jets) จำนวน 8 ตัว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการนำระบบขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ไฟฟ้า 100% มาใช้กับเรือที่มีขนาดใหญ่แบบนี้

หัวใจสำคัญของเรือคือระบบจัดเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ที่ประกอบด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจำนวน 5,016 ก้อน น้ำหนักรวมกว่า 250 ตันให้ความจุพลังงานติดตั้งสูงถึง 40 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) ซึ่งมีความจุมากกว่าการติดตั้งแบตเตอรี่ในเรือลำใด ๆ ก่อนหน้านี้ถึง 4 เท่า โดยระบบแบตเตอรี่ทั้งหมดจะถูกจัดวางในห้อง 4 ห้อง และใช้การระบายความร้อนด้วยอากาศเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อ

นวัตกรรมเพื่อผู้โดยสารและสิ่งแวดล้อม

นอกจากความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมแล้ว เรือลำนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์เชิงพาณิชย์ที่โดดเด่น ได้แก่ พื้นที่ช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกบนเรือเฟอร์รี่ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสาร ในด้านการปฏิบัติงาน เรือลำนี้จะใช้โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มเพียง 40 นาที เท่านั้น

เป้าหมายและการส่งออกสู่ระดับโลก 

เรือเฟอร์รี่ลำนี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับบริษัท Buquebus ผู้ให้บริการเรือเฟอร์รี่ในอเมริกาใต้ เพื่อให้บริการในเส้นทางระหว่าง กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา และเมืองโคโลเนีย เดล ซาคราเมนโต ประเทศอุรุกวัย ในช่วงต้นปีหน้าเรือจะถูกขนส่งไปยังอเมริกาใต้ และมีกำหนดจะ เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมหรือเมษายน 2026

โรเบิร์ต คลิฟฟอร์ด (Robert Clifford) ประธานของ Incat Tasmania กล่าวว่าความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่าออสเตรเลียกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำของโลกในยุคใหม่ของการต่อเรือที่เน้นประสิทธิภาพสูงและมีความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นต้นแบบสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือทั่วโลก