รีเซต

เปิด HRCT Checklist ดิจิทัล ยกระดับมาตรฐานวินิจฉัยโรคปอดไอแอลดีทั่วประเทศ

เปิด HRCT Checklist ดิจิทัล ยกระดับมาตรฐานวินิจฉัยโรคปอดไอแอลดีทั่วประเทศ
TNN ช่อง16
1 ธันวาคม 2568 ( 17:59 )

รังสีวิทยาสมาคมฯ จับมือเบอริงเกอร์ฯ เปิด HRCT Checklist ดิจิทัล ยกระดับมาตรฐานวินิจฉัยโรคปอดไอแอลดีทั่วประเทศ

รังสีวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยร่วมกับบริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด ลงนามบันทึกความร่วมมือภายใต้โครงการ “Advancing ILD Diagnosis” เพื่อพัฒนาและผลักดันการใช้เครื่องมือดิจิทัล HRCT Checklist & Structured Report Program สำหรับวินิจฉัยโรคปอดอินเตอร์สติเชียล หรือโรคไอแอลดี (Interstitial Lung Disease: ILD) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคปอดที่วินิจฉัยยากและมีความรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตภายใน 3–4 ปี

โครงการดังกล่าวมุ่งยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการอ่านภาพ HRCT (High-Resolution CT) ให้เป็นรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ ลดความคลาดเคลื่อนทางการสื่อสารระหว่างแพทย์และรังสีแพทย์ พร้อมสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยให้เข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียม โดยเครื่องมือ HRCT Checklist จะถูกนำขึ้นหน้าเว็บไซต์ราชวิทยาลัยฯ เพื่อให้แพทย์ทุกสถาบันสามารถใช้งานได้

รศ. นพ. วิวัฒนา ถนอมเกียรติ นายกรังสีวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย ระบุว่า ความร่วมมือนี้เป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานการวินิจฉัย ILD เนื่องจากรังสีแพทย์จำนวนมากอาจไม่ได้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง ทำให้บางประเด็นของการอ่านผล HRCT อาจตกหล่น เครื่องมือใหม่จะช่วยให้ข้อมูลครบถ้วน ชัดเจน และสื่อสารกับแพทย์เจ้าของไข้ได้อย่างแม่นยำ ส่งผลต่อผลลัพธ์การรักษาที่ดีขึ้น



ด้านนายริคาร์เต้ เซลวานเตส ริเวร่า ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอริงเกอร์ฯ กล่าวว่า บริษัทภูมิใจที่ได้สนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ที่ช่วยยกระดับการวินิจฉัยโรคไอแอลดี ซึ่งมีผู้ป่วยหลายหมื่นคนในประเทศไทย แต่ยังมีจำนวนมากที่ยังไม่ถูกวินิจฉัยอย่างถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม

ขณะเดียวกัน อ.พญ.ชญานิน นิติวรางกูร จากภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า HRCT Checklist สามารถนำภาพและข้อมูลมาประมวลร่วมกันก่อนออกรีพอร์ต จึงช่วยลดข้อผิดพลาดและทำให้แพทย์ตีความผลได้ตรงกันมากขึ้น

ภายในงานยังจัดเสวนาวิชาการเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทรังสีแพทย์ในกระบวนการวินิจฉัย ILD ซึ่งเป็นโรคมากกว่า 200 ชนิด ทั้งที่ทราบและไม่ทราบสาเหตุ การมีแนวทางการรายงานผลที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศจึงเป็นหัวใจสำคัญต่อการดูแลผู้ป่วยให้เข้าถึงการรักษาที่เหมาะสม

ผศ. นพ. วราวุฒิ สุขเกษม จากราชวิทยาลัยรังสีแพทย์ฯ กล่าวว่าปัจจุบันโรงเรียนแพทย์เริ่มนำ AI มาใช้ในงานด้านรังสีวิทยามากขึ้น แต่สุดท้ายการตีความและตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในการวินิจฉัย ILD ที่ต้องอาศัยความละเอียดสูง

ด้าน พญ. ลัคนา กาญจนกุล Head of Medical ของบริษัท เบอริงเกอร์ฯ เสริมว่า หากสามารถวินิจฉัยโรคไอแอลดีได้ตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยผู้ป่วยได้มาก เพราะโรคมีหลายชนิดและพัฒนาการของโรคแตกต่างกัน การมีเครื่องมือที่มีแพทเทิร์นเดียวกันจึงจำเป็นต่อการอ่านผลอย่างแม่นยำ

ความร่วมมือครั้งนี้แม้มีกรอบ MOU 1 ปี แต่เบอริงเกอร์ฯ เตรียมเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือวินิจฉัยโรคกลุ่มอื่นต่อไป และวางแผนกระจายเครื่องมือไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศเพื่อเสริมศักยภาพบุคลากรการแพทย์อย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง