เผยทหารหญิงอเมริกัน ถูกฆ่าโหดในฐานทัพ ค้อนทุบ หั่นศพโบกปูนทับ
เผยทหารหญิงอเมริกัน - เดลีเมล์ รายงานผลการสอบสวนคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญของสหรัฐอเมริกา เมื่อทหารหญิงอเมริกัน สิบตรีวาเนสซา กีเยน วัย 20 ปี หายตัวลึกลับก่อนถูกพบเป็นศพ ส่วนผู้ต้องสงสัยคนสำคัญชิงฆ่าตัวตายขณะตำรวจบุกจับกุม
ผู้ต้องสงสัยเป็นนายทหารผู้เชี่ยวชาญพิเศษ (เทียบเท่ากับยศสิบโท) ชื่อ แอรอน เดวิด โรบินสัน หนีออกจากฐานทัพฟอร์ต ฮู้ด คืนวันอังคารที่ 30 มิ.ย. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตามจับกุม จึงลั่นไกยิงตัวเองเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันพุธที่ 1 ก.ค.
ต่อมา น.ส. เซซิลี อากิลาร์ วัย 22 ปี ภรรยาที่เหินห่างกับพลทหารโรบินสัน ถูกจับในฐานะผู้ต้องสงสัยช่วยหั่นศพเหยื่อและสมรู้ร่วมคิดอำพรางศพ หญิงสาวถูกควบคุมตัวที่เรือนจำเขตเบลล์ หากศาลพิจารณาว่ากระทำผิดจริง อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี พร้อมทั้งปรับ 250,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8 ล้านบาท
เดมอน เฟลป์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของกองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมกองทัพ แถลงข่าวว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังมุ่งไปที่ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ลงมือกับเหยื่อ ระหว่างประจำการที่ฐานทัพฟอร์ต ฮู้ด
เบื้องต้นทราบเพียงว่า ทั้งสองไม่ได้อยู่สังกัดเดียวกันและไม่เคยทำงานในอาคารเดียวกัน แต่สิบโทโรบินสันประจำการที่อาคารเชื่อมกับอาคารที่สิบตรีกิลเลนทำงานอยู่
นอกจากนี้ ยังไม่มีหลักฐานยืนยันตามคำอ้างของครอบครัวของสิบตรีกีเยน ว่าทหารหญิงถูกพลทหารนายหนึ่งล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนที่จะหายตัวไป ซึ่งวันสุดท้ายที่มีคนเห็นเหยื่อ คือ วันที่ 22 เม.ย. ที่ฐานทัพในรัฐเท็กซัส หลังจากเธอบอกกับครอบครัวว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ
นาตาลี คาวัม ทนายความของครอบครัวกีเยนเปิดเผยว่าทหารหญิงถูกสังหารด้วยค้อนที่ฐานทัพและผู้ก่อเหตุพยายามเผาศพ ก่อนหั่นศพเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปฝังในคอนกรีต
เจ้าหน้าที่ทหารเผยว่า สิบตรีกีเยนเคยบ่นเรื่องเจ้าหน้าที่ยศสูงกว่า แต่โรบินสันไม่ได้อยู่ในสายบังคับบัญชาของทหารสาว และไม่มีหลักฐานว่าทหารสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ทนายความของครอบครัวผู้ตาย อ้างว่าน.ส.อากีลาร์เป็นแฟนของโรบินสัน ส่วนสิบตรีกีเยนทำงานในห้องเก็บอาวุธกับโรบินสัน ทหารหญิงขู่ว่าจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบว่าโรบินสันละเมิดกฎระเบียบกองทัพ
จากนั้น โรบินสันคว้าค้อนมาได้และฟาดศีรษะกิลเลียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังก่อเหตุ มีทหารอีกคนมาทำความสะอาดบริเวณที่สิบตรีกีเยนถูกสังหารโหด ขณะที่โรบินสันย้ายศพไปไว้ในรถยนต์ของตนเอง
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน โรบินสันขับรถไปรับอากีลาร์เพื่อช่วยกันนำศพไปทิ้งริมแม่น้ำ และพยายามเผาศพ แต่เปลี่ยนมาเป็นหั่นศพแทนแล้วโบกปูนซีเมนต์ทับศพ ก่อนฝังดิน สภาพศพถูกทำลายอย่างหนัก จนแพทย์ไม่สามารถใช้ใบหน้า หรือ กะโหลก เพื่อยืนยันอัตลักษณ์ไม่ได้เลย
ต่อมา เจ้าหน้าที่พบศพเมื่อวันอังคารในป่าใกล้กับแม่น้ำลีออน แต่ยันยันไม่ได้ว่าเป็นศพสิบตรีกีเยนหรือไม่ จนกระทั่ง ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เปิดปากว่าซ่อนศพไว้ในคอนกรีต
ส่วนทิม มิลเลอร์ จาก Texas Equusearch องค์กรช่วยค้นหาและกู้ภัย กล่าวว่าผู้ต้องหาซ่อนศพอย่างดี แต่สิ่งหนึ่งที่นำไปสู่การค้นหาศพเจอ คือ กลิ่นเหม็นเน่าที่โชยออกมา แม้โรยปูนขาวกลบกลิ่นและผสมคอนกรีตเททับศพแล้วก็ตาม
ประกอบกับได้เห็นรูปภาพบริเวณที่พบศพและพบฝากล่องใส่ของยี่ห้อพิลิแกนซึ่งโยงเข้ากับหลักฐานอีกชิ้นหนึ่ง คือ กล่องใส่ของแบบเดียวกันที่มีพยานเห็นว่าถูกนำไปไว้ในรถเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ซึ่งใกล้เคียงกับเวลาที่กิลเลียนหายตัวไป
วันต่อมา ศพของทหารหญิงถูกพบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากค้นหาตลอดแนวริมแม่น้ำลีออนเป็นระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตรจากฐานทัพฟอร์ต ฮู้ด
ด้านกองทัพเลื่อนยศให้กิลเลนเป็นผู้เชี่ยวชาญเมื่อวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย. แม้ว่าทหารหญิงมีสถานะสูญหายก็ตาม และไม่เชื่อเพราะไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่รับว่าจะพิจารณาข้อมูลอีกครั้งตามคำขอร้องของครอบครัวที่อยากให้ปิดฐานทัพและสอบสวน แต่ขณะนี้ กองทัพไม่ขอเปิดเผยข้อมูลเพราะจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งและการสอบสวนมีความคืบหน้าและจะทุกอย่างเพื่อให้ความจริงปรากฏ
https://www.youtube.com/watch?v=q4LujUQ_Atg
ส่วนเมย์รา น้องสาวของกีเยน กล่าวว่าเคยพบสิบโทโรบินสันเมื่อไม่นานมานี้ที่ฐานทัพ โดยไม่ทราบเลยว่าทำอะไรลงไปกับพี่สาว แต่บางอย่างเตือนใจว่าเขาอาจทำอะไรบางอย่าง และสุดท้ายกรรมตามสนองด้วยการฆ่าตัวตาย
ครอบครัวปักใจเชื่อว่าโรบินสันเป็นผู้ล่วงละเมิดทางเพศกีเยนและเป็นคนเดียวกับที่ลั่นไกยิงตัวเอง ขณะที่ตำรวจเข้าประชิดตัว
ครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นกีเยนที่ฐานทัพ เธอสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงเลกกิ้งสีม่วงอ่อนและรองเท้าผ้าใบไนกีสีดำ ส่วนกุญแจรถ กุญแจค่ายทหาร บัตรประจำตัวประชาชนและกระเป๋าเงินยังอยู่ในห้องเก็บอาวุธที่เธอทำงานในช่วงเช้า ก่อนหายตัวไป
ด้านอาสาสมัครจาก Texas EquuSearch ช่วยค้นหาในบริเวณเขตคอร์เยลล์ ไม่ห่างจากจุดที่เคยพบศพนายทหารอีกราย ชื่อ เกรกอรี เวเดล-โมราเลส เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. หลังจากหายตัวไปเช่นกัน แม้ว่าคดีทั้งสองไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็ทำให้ฐานทัพฟอร์ตฮู้ดตกเป็นสถานที่น่าไปทั่วอเมริกา
คดีโมลาเลส นายทหารหนุ่มมีผู้พบเห็นครั้งหลังสุด วันที่ 19 ส.ค.2562 ขณะกำลังขับรถยนต์ออกจากฐานทัพฟอร์ต ฮู้ด และถูกไล่ออก หลังจากหายตัวไปไม่กี่วัน มีการตั้งรางวัล 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8 แสนบาท แก่ผู้ที่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิต
///////