รีเซต

ภูเก็ตคึกคัก! ต่างชาติแห่เที่ยวรับรายได้กว่าแสนล. เปิด 5 อันดับนักท่องเที่ยวมามากสุด

ภูเก็ตคึกคัก! ต่างชาติแห่เที่ยวรับรายได้กว่าแสนล. เปิด 5 อันดับนักท่องเที่ยวมามากสุด
มติชน
28 พฤศจิกายน 2565 ( 17:29 )
506

ภูเก็ตคึกคัก! ต่างชาติแห่เที่ยวรับรายได้กว่าแสนล. เผย 5 อันดับนักท่องเที่ยวเข้าไทยมากสุด

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน นางสาวนันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ในช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 มีรายได้หมุนเวียนอยู่ที่ 119,180.98 ล้านบาท โดยมีอัตราการเข้าพัก อยู่ที่ร้อยละ 35.04 จำนวนห้องพักอยู่ที่ 101,221 ห้อง จำนวนผู้มาเยือน 6,208,978 คน/ครั้ง สัดส่วนของนักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 41.34

 

” สะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ฟื้นตัวกลับมาแล้วสูงถึงร้อยละ 80 แม้จะยังไม่มีตลาดจีน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ สถานประกอบการต่างรอคอยมาเกือบ 3 ปี จากพิษโควิด-19 ทำให้ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจึงไม่ใช่ปัญหาของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองว่าสิ่งที่ท้าทายในอนาคตอันใกล้ คือ แรงงานภาคการท่องเที่ยวที่ยังขาดแคลน ถือเป็นสิ่งที่บั่นทอนความสามารถในการให้บริการของสถานประกอบการ และเป็นสิ่งท้าทายการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตในระยะการฟื้นตัว” นางสาวนันทาศิริ กล่าว

ทั้งนี้ บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ไม่ว่าจะบริเวณถนนถลางและซอยรมณีย์ ซึ่งมีการจัดกิจกรรม “ถนนคนเดิน ภูเก็ต หลาดใหญ่” เป็นประจำทุกวันอาทิตย์ โดยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินเที่ยวชมหาซื้อสินค้าที่ระลึก รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มมากกว่าปกติที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มคนไทย จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีของการท่องเที่ยวภูเก็ตเป็นอย่างมาก ประกอบกับขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว

ทางด้าน พ.ต.อ. ธเนศ สุขชัยผกก.ตม.จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยวสะสม ช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 27 พฤศจิกายน 2565 มีจำนวน 934,164 คน โดยเป็นชาวต่างชาติ 914,746 คน และคนไทย 19,418 คน ส่วนข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตในช่วงระหว่างวันที่ 1- 27 พฤศจิกายน 2565 สูงสุด 5 อันดับแรกคือ รัสเซีย อินเดีย ออสเตรเลีย อังกฤษ และเยอรมนี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง