KNU เผยรัฐบาลทหารเมียนมายังโจมตีต่อเนื่องแม้จะเพิ่งเผชิญแผ่นดินไหว

สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ “เคเอ็นยู” (KNU) หนึ่งในกองทัพชาติพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมียนมา ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (30 มีนาคม) ว่ากองทัพภายใต้รัฐบาลทหารของเมียนมายังคงเดินหน้าโจมตีทางอากาศโดยเจาะจงเป้าหมายไปที่ “พื้นที่อยู่อาศัย” ของพลเรือน แม้ว่าเมียนมาเพิ่งจะเผชิญกับแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและจนถึงตอนนี้สถานการณ์ในเมียนมาก็ยังถือว่าวิกฤตอยู่
ในแถลงการณ์ของกลุ่ม KNU ยังระบุว่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ตามปกติแล้วกองทัพควรจะให้ความสำคัญไปที่การช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูบ้านเมืองหลังแผ่นดินไหวเป็นอันดับแรก แต่พวกเขากลับมุ่นเน้นไปที่การใช้กำลังโจมตีที่อยู่อาศัยของพลเรือนที่เป็นทุกข์จากแผ่นดินไหวมากพออยู่แล้วแทน ด้านองค์ Free Burma Rangers ซึ่งเป็นองค์กรบรรเทาทุกข์ในเมียนมากล่าวว่ารัฐบาลทหารส่งเครื่องบินไอพ่นโจมตีทางอากาศและยังใช้โดรนโจมตีในรัฐกะเหรี่ยงใกล้กับสํานักงานใหญ่ของ KNU ทางตอนใต้ของประเทศอย่างต่อเนื่องหลังเกิดแผ่นดินไหวได้ไม่นาน เช่นเดียวกับเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่มีรายงานการโจมตีด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดใดจากฝั่งรัฐบาลทหารของเมียนมาเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศดังกล่าวที่เกิดขึ้นในช่วงภัยพิบัติ แม้ว่าฝั่งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของเมียนมา (National Unity Government) จะกล่าวว่ากองกําลังติดจะอาวุธหยุดการโจมตีทั้งหมดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก็ตาม ขณะที่สกายนิวส์รายงานว่าศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ในพื้นที่ที่กองกําลังของรัฐบาลยึดครอง แต่ความเสียหายนั้นเกิดเป็นวงกว้างและส่งผลกระทบต่อดินแดนบางส่วนที่ยึดครองโดยขบวนการติดอาวุธต่อต้านรัฐบาล
ริชาร์ด ฮอร์ซีย์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านเมียนมาในองค์กร “ไครซิสกรุ๊ป” (Crisis Group) ซึ่งทํางานเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางอาวุธที่เกิดในเมียนมา กล่าวว่ารัฐบาลทหารควรยุติการโจมตีทางอากาศ เขากล่าวด้วยว่ารัฐบาลเมียนมาไม่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวมากพอ เนื่องจากการกู้ภัยและความช่วยเหลือทั้งด้านเจ้าหน้าที่และทรัพยากร ล้วนมาจากองค์กรต่าง ๆ แทนที่จะเป็นรัฐบาลที่ควรจัดหาทรัพยกรเหล่านี้เพื่อให้เข้าถึงประชาชนอย่างเร็วที่สุด