รีเซต

ห้ามปชช.ดื่มน้ำดิบพุโซดาบาดาลห้วยกระเจา เผยให้รับที่ผ่านการกรองแล้วเท่านั้น

ห้ามปชช.ดื่มน้ำดิบพุโซดาบาดาลห้วยกระเจา เผยให้รับที่ผ่านการกรองแล้วเท่านั้น
ข่าวสด
11 มีนาคม 2564 ( 11:09 )
44

ห้าม ปชช.-นทท. ทดลองดื่มน้ำดิบพุโซดาบาดาลห้วยกระเจา ให้รับที่ผ่านการกรองแล้วเท่านั้น ส่วนชาวบ้านเฮต่อเนื่อง เหตุพบน้ำเพิ่มอีก 3 บ่อ แต่ไม่พุ

 

 

วันที่ 11 มี.ค. 64 นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต2 (สุพรรณบุรี) เปิดเผยว่า บริเวณพุโซดาบ่อที่2 เคยให้ประชนได้ทดลองชิมน้ำดิบนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ปรับรูปแบบใหม่ และดำเนินการปรับภูมิทัศน์โดยรอบบ่อน้ำบาดาลเพื่อให้มันดูดีขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มาท่องเที่ยวและมารับน้ำโซดาที่เราแจกจ่ายกลับไป ส่วนน้ำดิบพุโซดาที่ยังไม่ผ่านกระบวนการการกรอง ขณะนี้เราไม่อนุญาตให้ประชาชนได้ทดลองชิมแล้ว

 

โดยเราอนุญาตให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมารับน้ำในส่วนที่ผ่านกระบวนการการกรองที่ได้มาตรฐานน้ำดื่มแล้วเท่านั้น จะแจกจ่ายให้กับประชาชนคนละ 500 ซีซีตามเดิมโดยสามารถมารับน้ำได้ที่บริเวณโรงกรองน้ำของเราซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการกรอกน้ำให้ครบทุกคนที่มา

 

สำหรับจำนวนปริมาณของประชาชนและนักท่องเที่ยวจนถึงขณะนี้นั้นพบว่า ในช่วงวันธรรมดามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างน้อยวันละ 1,500-2,000 คน ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านยังคงมีตัวเลขของนักอยู่ที่ประมาณวันละ 5,000 คนขึ้นไป จะพบได้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ได้ลดน้อยลง

 

นายทนงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ทำการสำรวจและเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่บ้านทุ่งคูณ หมู่ 19 ต.ห้วยกระเจา เพิ่มอีกจำนวน 4 บ่อ แต่ละบ่อลึกมากกว่า 100 เมตร ผลประกฎว่าได้น้ำบาดาลแล้ว จำนวน 3 บ่อ และแต่ละได้น้ำมากกว่า 40 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปแต่น้ำที่ได้ทั้ง 3 บ่อนั้นไม่พุ

 

ส่วนกรณีที่ได้มีการประชุมกับทางจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งทาง อบจ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมสรุปได้ว่า จะให้ทาง อบจ.กาญจนบุรี เข้ามาดำเนินการปรับสถานที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยเน้นให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากน้ำแร่ โดยมีคณะทำงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นคณะทำงาน

 

ถามว่าหากมีการจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้วจะยังคงสภาพให้น้ำพุพวยพุ่งขึ้นมาเช่นเดิมหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบในส่วนของน้ำพุอยู่เช่นกัน ส่วนจะยังให้คงพุอยู่ต่อไปหรือไม่นั้นคงจะต้องมีการพูดคุยกันในระดับคณะทำงานว่าเราจะคงลักษณะพื้นที่ หรือการพัฒนาพื้นที่จะมีลักษณะอย่างไรบ้าง ซึ่งจะเป็นเรื่องของการพูดคุยกันในอนาคต

 

โดยปัจจุบันท่านอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลนายศักดิ์ วิเชียรศิลป์ ได้มีข้อสั่งการลงมาโดยเน้นย้ำเกี่ยวกับความสะอาดของพื้นที่บริเวณโดยรอบ รวมทั้งเน้นในเรื่องของการวิเคราะห์น้ำดื่มให้ได้มาตรฐานน้ำดื่มทุกวัน ซึ่งท่านอธิบดีได้สั่งการมาให้นำรถปฏิบัติการวิเคราะห์คุณภาพน้ำบาดาลเคลื่อนที่มาประจำในพื้นที่ทุกคน

 

สำหรับน้ำแร่โซดาเพื่อรอแจกจ่ายให้กับประชาชนนั้น ปัจจุบันเรามีอัตราการผลิตอยู่ที่ 500 ลิตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าภายใน 1 วันหากเราผลิตน้ำอยู่ที่วันละ 2,000 ลิตรก็จะสามารถแจกจ่ายให้กับประชาชนได้ประมาณ 4,000 คน แต่ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับจำนวนคน ถ้ามีคนมาเที่ยวเป็นจำนวนมากเราก็สามารถผลิตได้มาก ขึ้นอยู่กับจำนวนของประชาชนที่มาในแต่ละวัน

 

ก็ขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ยังไม่เคยมา หรืออยากจะมาชิมน้ำพุโซดาที่ผ่านการกรองสามารถเดินทางมาได้ทุกวัน แต่อยากฝากไปถึงผู้ที่จะเดินทางมารับน้ำ ท่านสามารถรับน้ำแร่โซดาได้เพียงคนละ 500 ซีซีเท่านั้น และก็ไม่ควรดื่มเกินวันละ 500 ซีซี เพราะในแต่ละวันทุกคนได้รับแร่ธาตุที่เป็นอาหารจากส่วนอื่นที่เพียงพออยู่แล้ว

 

ด้านนายศิริพงษ์ พัฒนกุลเกียรติ นักท่องเที่ยวชาว กทม. กล่าวว่า ตนมาทำธุระที่อำเภอพนมวน หลังจากทำธุระเสร็จก็ได้พาแม่มาเที่ยวและทดลองดื่มน้ำแร่โซดาที่ผ่านการกรองซึ่งก็มีรสชาติซ่าคล้ายโซดาที่เปิดฝาขวดค้างคืนเอาไว้

 

ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นความโชคดีของชาวตำบลห้วยกระเจาและจังหวัดกาญจนบุรีที่ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เจาะพบน้ำแร่โซดาที่เป็นธรรมชาติ สามารถดื่มได้ด้วย อีกทั้งยังทำให้พื้นที่มีความคึกคักขึ้นเป็นอย่างมาก และหลังจากมีเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามา ก็เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้ด้วย

 

ที่สำคัญหากมีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวจะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมากเพราะจะเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพกระจายรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รวมทั้งสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 2 (สุพรรณบุรี)และผู้ที่เกี่ยวข้องที่พลิกแผ่นดินที่เคยแห้งแล้งมาอย่างยาวนานให้กลับกลายเป็นพื้นที่ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ คาดว่าอีกต่อไปพื้นที่แห่งนี้จะไม่แห้งแล้งต่อไปอีกแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง