บิ๊กต่อบุก โกดังปทุมธานี ลักลอบผลิต กักตุนเจลล้างมือ-หน้ากากอนามัย มูลค่า 50 ล้าน

บุกค้น 5 จุดโกดังย่านปทุมธานี ลักลอบผลิต กักตุนเจลล้างมือ-หน้ากากอนามัย มูลค่า 50 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 24 เมษายน พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบช.ก. พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผบก.ตร.มหด.รอ.904 พ.ต.อ.ณรงค์เวทย์ โอนสูงเนิน รองผบก.ตร.มหด. รอ.904 พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รองผบก.บก.ตม.3 พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ตร.มหด.รอ.904 พ.ต.อ.เอกนิรุจศิ์ วันสิริภักด์ ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี นำกำลังตำรวจ บก.ปคบ.ตำรวจบก.ตร.มหด.รอ.904 ตำรวจ ตม.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในและสำนักงานอาหารและยา(อย.) พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี เลขที่118/2563 ลงวันที่ 24 เม.ย.2563 เข้าตรวจค้นโกดัง 5 จุด ภายในซอยพหลโยธิน 76 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่าโกดังดังกล่าวเป็นแหล่งพักสินค้าจำพวกหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์
จากการตรวจสอบพบเป็นโกดังขนาดใหญ่สองชั้นรวม 5 โกดัง เจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นแสดงให้ผู้รับผิดชอบ ก่อนเข้าตรวจค้นโกดังสินค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจค้นทั้ง 5 จุดพบ 2 จุดสำคัญที่มีการใช้เป็นที่พักสินค้า โกดังจุดแรกตั้งอยู่เลขที่ 733/734-735 เป็นที่ตั้งสำนักงานบริษัทครอคโค่ (ไทยแลนด์) ผลตรวจค้นพบหน้ากากอนามัย จำนวน 48,000 ชิ้น และเจลแอลกอฮอล์ 47,000 ขวด และจุดที่สองตั้งอยู่เลขที่ 733/738-739 พบเจลแอลกอฮอล์ 70,000 ขวดรวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท มีนายฉี (นามสมมุติ)ชาวจีนอายุประมาณ 40 ปีรับเป็นเจ้าของและผู้ดูแล
พล.ต.ต.สยาม กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นโกดังแห่งนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวนได้ทำการแกะรอยจากเว็บไซต์ที่มีการลักลอบจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์กระทั่งพบว่ามีการใช้โกดังแห่งนี้เป็นสถานที่เก็บสินค้า จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ ซึ่งจากการสอบสวนนายฉีให้การรับสารภาพว่า บริษัทดังกล่าวมีการขออนุญาตจดแจ้งทำธุรกิจขายเครื่องสำอาง ซึ่งในส่วนของเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัย ได้สั่งซื้อมาจากที่ย่านเสือป่า เพื่อนำมาขายเอง โดยรับมาได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาตามความผิดตาม พรบ.เครื่องมือแพทย์ พรบ.เครื่องสำอาง และ พรบ.ฉลาก และอยู่ระหว่างการขยายผลหากพบความผิดอื่น ๆ ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ของกรมการค้าภายในและทางสำนักงาน(อย.)จะเข้ามาทำการคัดแยกของกลางว่า จัดอยู่ในประเภทที่ได้คุณภาพหรือไม่ได้คุณภาพ รวมทั้งอยู่ในการกำกับดูแลในส่วนของกรมการค้าภายในหรือไม่รวมทั้งตรวจสอบว่ามีการจดแจ้งผลิตภัณฑ์นำเข้ามาถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นพบว่า หน้ากากอนามัยมีต้นทางการผลิตและนำเข้ามาจากประเทศจีน และประเทศเวียดนาม ในส่วนของเจลแอลกอฮอล์ที่ตรวจค้นพบว่า มีมาในรูปแบบของขวดที่ไม่มีฉลากและบริษัทดังกล่าวนำมาติดฉลากเอง ซึ่งในส่วนของกลางทั้งหมดจะทำการตรวจยึดไว้โดยมอบหมายให้ทาง บก.ปคบ.และสภ.คูคต เป็นผู้ดำเนินการ
“ในส่วนของกลางที่ทำการตรวจยึดนั้นทางพนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนหาที่มาที่ไปพร้อมระบุในสำนวนว่าของกลางทั้งหมดทางผู้ถูกกล่าวหายินยอมให้ตกเป็นของแผ่นดินหรือไม่ หากมีความประสงค์ยินยอมก็จะทำการบันทึกไว้ หลังจากที่นำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลและศาลพิพากษาลงโทษ ทางพนักงานอัยการก็จะทำเรื่องมายังชุดพนักงานสอบสวนว่าให้คืนของกลางให้กับทางผู้ต้องหาซึ่งหากความประสงค์ของทางผู้ต้องหายินยอมที่จะให้ของกลางตกเป็นของแผ่นดินก็สามารถที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 85 ซึ่งในส่วนนี้เป็นนโยบายของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ต้องการเร่งรัดการดำเนินคดีโดยประสานกับทางพนักงานอัยการและศาลเพื่อที่จะนำของกลางนั้นมาแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และพี่น้องประชาชนที่ยังมีความต้องการโดยเร็ว ซึ่งอุปกรณ์ของกลางที่ตรวจยึดได้หากเป็นอุปกรณ์ที่ผ่านการคัดกรองว่าได้คุณภาพ มีความจำเป็นและใช้ในทางการแพทย์ก็จะทำการส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ในส่วนของหน้ากากอนามัยเจลแอลกอฮอล์ที่ผ่านการคัดกรองว่าได้คุณภาพ ก็จะทำการแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่มีความต้องการนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป” รองผบช.ก.กล่าว
ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)กล่าวว่า จากการตรวจสอบหน้ากากอนามัยเป็นอุปกรณ์จากการแพทย์ ทาง อย.ได้ตรวจสอบจากฐานข้อมูลแล้วพบไม่มีการขออนุญาตเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้ขออนุญาต นอกจากนี้ยังพบผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ล้างมือทั้งแบบสเปรย์ และเจลแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมากเป็นสินค้าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศไม่ปรากฏมีเลข (อย.) กำลังไล่ตรวจสอบอยู่เป็นจำนวนกว่า 10 รายการ มูลค่าอยู่ระหว่างตรวจสอบเช่นกัน
พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ กล่าวเสริมว่าของกลางทั้งหมดมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท หากตรวจพบสินค้าตัวไหนไม่ผิด เราก็จะคืนแก่ผู้ประกอบการส่วนที่ผิดก็จะนำของกลางไปเก็บไว้ บก.ปคบ.และที่คลังเก็บของ อย.ถามว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่จับกุมเมื่อวานไหม ไม่ใช่แต่เป็นกลุ่มที่สั่งสินค้ามาจากต่างประเทศวันนี้ จึงเข้าตรวจค้นทั้งหมด 5 โกดังเจอสินค้าที่ผิดกฎหมาย 2 โกดัง เราจะดำเนินการตรวจค้นจับกุมต่อเนื่องซึ่งเป็นนโยบายของ ผบ.ตร.และผบช.ก.ที่ให้ดำเนินการการจับกุมเน้นหน้ากากอนามัย แต่ส่วนใหญ่สินค้าจะมาพร้อมกับหน้ากากอนามัย และเจล เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านมาตรฐาน หากนำใช้ล้างมือจะมีอาการคันและมือลอก และตัวหน้ากากเองก็กันอะไรไม่ได้จึงเป็นนโยบายของตร.ให้เร่งสอบสวนจับกุมสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน