โจรแต่งตัวดี ขับเก๋ง ฉกกระเป๋าตังค์ ถึงหน้าบ้าน แม่ลูกป่วยฟอกไต สูญกว่า3แสน
วันที่ 11 ธ.ค. 2563 นางวิไล พรมลา อายุ 59 ปี และนางปัทมา หกลา อายุ 40 ปี สองแม่ลูก อาชีพแม่ค้าขายของในตลาดสดทุ่งนาทอง อยู่บ้านเลขที่ 165 ม.5 บ้านดงสวาง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นำคลิปกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายเข้ามาขโมยกระเป๋า หน้าบ้านพักแล้วนำเอาทรัพย์สินหลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 12.23 น.วันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อวอนให้เจ้าหน้าที่และโลกโซเชียลช่วยกันแจ้งเบาะแส ในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
https://www.youtube.com/watch?v=kjEdUseTJ_w&feature=youtu.be
โดยภาพจากกล้องวงกรปิดหน้าบ้านพักผู้เสียหาย สามารถจับภาพคนร้ายขับรถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับผ่านหน้าบ้านพัก ก่อนจะถอยรถกลับมาจอด จากนั้นมีชายใส่แว่นตาดำ แต่งตัวดี นุ่งกางเกงขายาว สวมเสื้อเชิ้ต เดินลงมาจากรถแล้วมองดูลาดเลา เห็นสองแม่ลูก กำลังนอนหลับพักผ่อนที่ซุ้มศาลาหน้าบ้านพัก
จากนั้นชายคนดังกล่าว ได้เดินอ้อมไปด้านข้างแล้วหยิบกระเป๋าสะพายที่วางอยู่ข้างตัวนางวิไล ข้างในมีสร้อยคอทองทำน้ำหนัก 3 บาท 2 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น จี้พระทองคำหนัก 50 สตางค์ 1 องค์ เงินสดอีกกว่า 45,000 บาท และอกสารต่างๆแล้วเดินขึ้นรถหลบขับหนีไปอย่างรวดเร็ว
นางปัทมา กล่าวว่า พอตนเองตื่นขึ้นมาก็พบว่า กระเป๋าที่วางอยู่ข้างตัวหายไป จึงไปเปิดดูกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชายแต่งตัวดี ขับรถเก๋งสีขาวมาจอดก่อนจะอาศัยจังหวะที่ตนและแม่นอนหลับแอบขโมยกระเป๋าไป รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปกว่า 300,000 บาท จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และอยากฝากผู้ที่พบเห็น หรือชาวโซเชียลหากพบเห็นคนร้ายให้แจ้งเจ้าหน้าที่
ด้านนางวิไล กล่าวว่า ทรัพย์สินที่คนร้ายขโมยไปนั้น เป็นทรัพย์สินที่ตนและลูกสาวทำงานค้าขายเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต เพื่อที่จะนำมาใช้จ่ายในครอบครัว และนำไปเป็นค่ารักษาตัวนางปัทมา ลูกสาวที่กำลังป่วยเป็นโรคไตวาย แต่กลับมาถูกคนร้ายขโมยไปจนหมดเกลี้ยง จึงอยากขอร้องคนที่ขโมยนำเงินมาคืน เพราะไม่มีเงินที่จะไปเป็นค่ารักษาลูก และวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาโดยเร็ว
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ และเร่งแกะรอยจากล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายขับเข้ามาก่อเหตุและขับหลบหนี เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายอาจจะรู้จัก หรือทราบข้อมูลของผู้เสีย หรืออาจจะเป็นมิจฉาชีพที่แอบตามสะกดรอยจนรู้ว่าทั้งสองคนมีทรัพย์สินจึงก่อเหตุดังกล่าว