กองสลาก เตรียมรื้อโควตา เปิดลงทะเบียนผู้ค้าใหม่ แก้หวยแพง
กองสลาก เตรียมรื้อโควตา เปิดลงทะเบียนผู้ค้าใหม่ แก้หวยแพง
วันที่ 11 ก.ย. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเวทีเสวนา “การปรับโครงสร้างการกระจายสลาก รวมถึงการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา” เพื่อเปิดรับฟังความเห็นของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าขายที่อยู่ในระบบโควตา ผู้ค้ารายย่อย รวมถึงคนขายที่ไม่ได้โควตา หรือไม่ได้รับการจัดสรรสลาก ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ รวมถึงสื่อมวลชน ได้ร่วมเสนอทางออก ในการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา
นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ปัญหาสลากเกินราคา สำนักงานสลากฯ เริ่มเห็นสัญญาณในช่วง 2-3 เดือน ทำให้สลากมีราคาเพิ่มขึ้นสูงกว่า 90 บาทต่อใบ เป็นผลมาจากการมีผู้ขายหน้าใหม่เข้ามาในระบบมากขึ้นกว่า 1 แสนคน และจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อผู้ขายสลากเพิ่มขึ้นจึงมีความต้องการสลากนำไปขายต่อประชาชนสูงขึ้น ส่งผลให้มีการหาสลากที่ตลาดขายส่ง
นอกจากนี้ยังพบว่าคนเริ่มไปซื้อสลากที่ไปรษณีย์ เมื่อเห็นสลากมีราคาสูง ดังนั้นคนขายจริงจึงเปลี่ยนสภาพเป็นคนขายช่วงแทน เพื่อหวังกำไรเฉพาะหน้า และนำเงินกำไรไปซื้อรอบสองที่ตลาดขายส่งยิ่งทำให้สลากมีราคาที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 23 ก.ย. คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ดสลาก) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเบื้องต้นจะมีการพิจารณาการเปิดลงทะเบียนของผู้ขายสลากใหม่ทั้งระบบ ทั้งในส่วนระบบโควตาและระบบทั่วไป เนื่องจากมีการลงทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2557 โดย คณะกรรมการบริหารจัดการสลากจะมีการสรุปอีกครั้งก่อนเสนอบอร์ดพิจารณาต่อไป
“การพิมพ์สลากเพิ่มไม่ใช่ประเด็นที่ถูกต้อง น่าจะดำเนินการตัดตอนคนที่ขายช่วง รวมถึงแนะนำให้มีการลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากลงทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2557 โดย สนง.สลากเห็นว่าน่าจะสมดุลแล้วไม่ต้องมีคนขายเพิ่ม แต่เมื่อทุกฝ่ายเห็นต้องกันในการลงทะเบียนใหม่ จะรับไว้พิจารณาและนำเสนอบอร์ด” นายธนวรรธน์ กล่าว
ส่วนประเด็นเรื่องการขอให้เพิ่มการจัดพิมพ์สลากเพิ่ม พบว่า ความต้องการขายน่าจะเกิน 100 ล้านฉบับจริง แต่ความต้องการซื้อไม่ได้เพิ่มเกิน 100 ล้านฉบับ ดังนั้นจึงเห็นว่าจะไม่เพิ่มการพิมพ์สลากเกินจากปัจจุบัน เพราะไม่มีเหตุที่จะเพิ่มได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของข้อเสนอนี้จะนำไปพิจารณาอีกครั้งว่ายังจำเป็นต้องพิมพ์สลากเพิ่มเติมเข้ามาในระบบอีกหรือไม่
ทั้งนี้ จากการรับฟังความคิดเห็น เช่น บางกลุ่มเห็นว่าควรเพิ่มสลาก ให้ตรงตามความต้องกรของผู้ขาย ควรลดราคาสลาก ลดเหลือราคาฉบับละ 40 บาท หรือ 20 บาท ให้รายย่อยอยู่ได้ เพราะการขายเปลี่ยนมือจะถูกกำจัดออกไป บางกลุ่มเห็นว่าไม่ควรเพิ่ม ยิ่งมีสลากเพิ่ม ยิ่งรวมชุดง่ายขึ้น ผู้เสียประโยชน์คือผู้จำหน่ายรายย่อย
นอกจากนี้ เสนอแนวทางป้องกันการเปลี่ยนมือ โดยมีการลงทะเบียนที่ปลายทาง ให้แสดงบัตร ตัวแทนและจุดขาย ควรทำประกันกลุ่มให้ผู้จำหน่าย ส่วนการจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ขอให้ดูแลผู้ค้าเดิม คือสลากใบ และรองรับคนรุ่นใหม่ ซื้อผ่านมือถือ ควรมีระบบการสะสมเงินให้กับผู้ซื้อ ทีละ สองบาทสามบาท เหมือนการสะสมเงินออมให้กับผู้ซื้อ เหมือนกองทุนการออม ให้ยกเลิกการจับกุมผู้จำหน่าย เนื่องจากสลาก 5 เล่มไม่พอขาย จำเป็นต้องซื้อมาเพิ่ม
ขณะที่ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ระบุว่า ได้รับสลากรายละ 5 เล่มตั้งแต่ปี 2538 ไม่เพียงพอ จึงขอสลากเพิ่ม ให้คนขายจริง ควรเพิ่มเป็น 10 เล่ม หรือตามความสามารถในการจำหน่าย และไม่ว่าจะพิมพ์สลากเพิ่ม หรือเป็นระบบออนไลน์ ให้คำนึงการเป็นไปตาม พรบ.สลากฯ ฉบับแก้ไขใหม่ด้วย ข้อที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงของผู้พิการด้วย ส่วนกลุ่มสลาก 5 ภาค เสนอว่าควรพิมพ์สลาก 2-2-1 ทั้งหมด มีการจัดจุดนำหน่าย 80 บาท และให้สลากจำหน่ายเพียงพอต่อการดำรงชีพ