ตลาดแรงงานสหรัฐ เฟด และทองคำ วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

GOLD BULLISH

• การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ
• ความต้องการทองคำจากจีนในปีนี้คาดเพิ่มขึ้น

GOLD BEARISH

• ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน
• แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว 
• การกระจายวัคซีนโควิด-19

ประธานเฟดส่งสัญญาณยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 

สัปดาห์ก่อนการแถลงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตโควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แถลงว่าเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้าง และเฟดจะไม่ใช้ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดคลายความกังวลในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและแรงเทขายทองคำเริ่มลดลง  หลังจากที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มิ.ย. ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ 1 ปี นอกจากนี้ประธานเฟดสาขาเซ็นต์หลุยส์ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ที่ทำให้ราคาทองคำปรับลงแรงถึง 100 ดอลลาร์หรือลดลง 6% สำหรับตลาดแรงงานสหรัฐอย่างที่ผมเคยเขียนถึงในบทความช่วงปลายเดือนพ.ค.การจ้างงานนอกภาคเกษตรยังอยู่ระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิดหรือเดือนก.พ.ปีที่แล้วถึงราว 8 ล้านตำแหน่ง ล่าสุดยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิดราว 7.6 ล้านตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปีที่จะกลับไปสู่ระดับการจ้างงานที่เฟดตั้งเป้าหมายไว้ ด้วยข้อสมมติฐานว่าการจ้างงานต้องเพิ่มขึ้น 5 แสนตำแหน่งต่อเดือน ดังนั้นถ้าเฟดคำนึงถึงตลาดแรงงานเป็นหลักในการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ย เฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดในช่วงปลายปีหน้า 

ทองคำผันผวนถ้าการจ้างงานของสหรัฐเดือนมิ.ย.ต่างจากตลาดคาด 

สัปดาห์นี้ประเด็นหลักที่คาดจะกระทบต่อราคาทองคำคือการจ้างงานของสหรัฐเดือนมิ.ย. ซึ่งยังเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนในกรณีที่ตัวเลขการจ้างงานออกมาแตกต่างจากที่ตลาดคาดไว้มาก หลังจากที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าตลาดคาดมา 2 เดือนติดต่อกันแล้วและช่วยหนุนราคาทองคำในช่วงที่เปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน สำหรับเดือนมิ.ย.ตลาดคาดการณ์ว่าการจ้างงานภาคเอกชน ADP และการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 555,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้น 700,000 ตำแหน่ง ตามลำดับ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญอื่นๆ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนมิ.ย. ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมิ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดุลการค้าเดือนพ.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.

การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ

 การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐต่ำกว่าตลาดคาด 2 เดือนติดต่อกัน

สัปดาห์นี้แนวโน้มราคาทองคำคาดคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,760-1,800 ดอลลาร์ โดยทองคำมีแนวรับที่ 1,770 ดอลลาร์ และ 1,760 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,800 ดอลลาร์ และแนวต้านสำคัญ 1,830 ดอลลาร์ ประเด็นเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเข้าใกล้ 32 บาทต่อดอลลาร์ ช่วยหนุนราคาทองแท่งในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 26,700 บาท และ  26,550 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 27,050 บาท และ 27,400 บาท