คืบหน้าเครื่องบินเนปาลตก ล่าสุดพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย
วันนี้( 30 พ.ค.65) เจ้าหน้าที่กู้ภัยเนปาลพบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กแบบ ทวิน ออตเตอร์ ของสายการบินธาราแอร์ สายการบินเอกชนของเนปาล ประสบอุบัติเหตุตกบริเวณเทือกเขาสูงในเขตมุสตัง ใกล้พรมแดนจีน เพิ่มเป็น 17 รายแล้ว ส่วนใหญ่พบอยู่ใต้ซากเครื่องบินที่กระจัดกระจายเป็นพื้นที่กว้าง และจะเร่งเดินหน้าค้นหาร่างผู้สูญหายอีก 5 ราย ที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ปฏิบัติการค้นหาและกู้ร่างผู้เสียชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก ทหารจากกองทัพบกและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทำงานท่ามกลางสภาพภูมิประเทศทุรกันดารที่ระดับความสูงราว 14,500 ฟุต และมีเมฆปกคลุมหนา ขณะที่ซากเครื่องบินบางชิ้นมีขนาดใหญ่และหนักจนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยมือเปล่า
เครื่องบินโดยสารขนาดเล็กลำนี้ มีอายุการใช้งานมานานถึง 43 ปี และมีผู้อยู่บนเครื่องบิน 22 คน เป็นลูกเรือ 3 คน และผู้โดยสาร 19 คน แบ่งเป็นชาวเนปาล 13 คน ชาวอินเดีย 4 คน และชาวเยอรมัน 2 คน สูญหายช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ค.2565 ตามเวลาท้องถิ่น ระหว่างเดินทางจากเมืองโปขรา มุ่งหน้าไปยังเมืองจอมซอม ห่างไปประมาณ 200 กิโลเมตร โดยขาดการติดต่อไปหลังจากเดินทางราว 15 นาที ขณะที่เที่ยวบินนี้ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที
ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุของเครื่องบินตก แต่ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า ได้ยินเสียงระเบิดก่อนที่เครื่องบินจะหายไปจากท้องฟ้า และว่าเครื่องบินน่าจะไปชนกับยอดเขาขนาดเล็ก
ก่อนจะพุ่งชนภูเขาที่พบซากเครื่องบิน
ธาราแอร์เป็นสายการบินเอกชน เคยเกิดอุบัติเหตุในเที่ยวบินเดียวกันนี้ครั้งหลังสุดในปี 2559 ชนกับเชิงเขาขณะมีคนบนเครื่อง 23 คน ด้านอุตสาหกรรมการบินของเนปาลเฟื่องฟูในช่วงหลายปีมานี้ เป็นการขนส่งอาหารและผู้คนในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก และเส้นทางไต่เขายอดนิยมของชาวต่างชาติ แต่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยเพราะบุคลากรขาดการฝึกอบรมและเครื่องบินขาดการบำรุงรักษาอย่างเพียงพอ สหภาพยุโรปหรืออียูห้ามสายการบินเนปาลเข้าน่านฟ้าทุกสายการบินเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย
ภาพจาก รอยเตอร์