เมื่อหมอไม่ใช่หมอจริง ทำไมคนถึงชอบปลอม แอบอ้างเป็นอาชีพแพทย์?

ใส่ชุดกาวน์ เช็กอินโรงพยาบาล โพสต์เล่าเรื่องเคสคนไข้
เรื่องราวของ ‘หมอปลอม’ ปรากฎขึ้นในโซเชียลมีเดีย หลังพบบุคคลที่โพสต์ และบอกเล่าเรื่องราวเสมือนตัวเองเป็นบุคลากรทางการแพทย์ แต่เมื่อตรวจสอบจากแพทยสภา กลับไม่พบข้อมูล รวมถึงโรงพยาบาลที่ถูกแอบอ้างเองก็ได้ออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าวด้วย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนปลอมเป็นหมอ รวมถึงในต่างประเทศเองก็มีหลายเคสที่คนปลอมเป็นหมอเช่นกัน เคสเหล่านั้นสร้างความเสียหายอย่างไร และทำไมคนชอบปลอม หรือแอบอ้างว่าเป็นหมอกัน ?
หมอปลอมเปิดคลินิก ตรวจโรคปลอม เมื่อทุกที่มีหมอปลอม
เคสหมอปลอมที่แอบอ้างซึ่งกำลังเป็นกระแสในไทยนั้น อาจเรียกได้ว่า เป็นการแอบอ้างด้วยการโพสต์ภาพ หรือข้อความต่างๆ ในโซเชียล แต่ในปี 2015 ในสหรัฐฯ ได้มีเคสที่วัยรุ่นปลอมตัวเป็นหมอ และถึงขั้นเปิดคลินิกของตัวเอง จนสุดท้ายถูกดำเนินคดีทางกฎหมายด้วย
มาลาไค เลิฟ-โรบินสัน วัยรุ่นชาวฟลอริดา สหรัฐฯ ได้เริ่มจากการปลอมตัวเป็นวิสัญญีแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ St. Mary's ก่อนที่ต่อมา จะเปิดคลินิกของตัวเอง จ้างพนักงานประจำ ตรวจร่างกายผู้ป่วย ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีวุฒิ หรือจบด้านการแพทย์แม้แต่น้อย แต่จบเพียงมัธยมปลาย และขณะถูกจับกุม เขามีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น แต่ได้ปลอมอายุในโปรไฟล์ และบนเว็บไซต์ของตัวเองว่าอายุ 25 ปี
เว็บไซต์แนะนำตัวของเขายังระบุว่า ตัวเองเป็นประธาน CEO และผู้ก่อตั้งคลินิก และยังใส่คำว่า ‘ดร.’ นำหน้าชื่อของตัวเอง ทั้งยังอธิบายว่าตัวเองเป็น "มืออาชีพรอบด้าน" ด้วยการ “ใช้วิธีการทางสรีรวิทยา จิตวิทยา และกลไก เช่น อากาศ น้ํา แสง ความร้อน ดิน (เพื่อรักษาผู้ป่วย)” โปรไฟล์ในเว็บของเขาระบุ
แม้เลิฟ-โรบินสันจะอ้างว่าเขาทำไปเพราะต้องการช่วยเหลือผู้คนเท่านั้น แต่เขาก็ถูกดำเนินคดีถึง 14 ข้อหา ทั้งปลอมใบอนุญาตทางการแพทย์ และฉ้อโกง ก่อนจะถูกจำคุก และถูกปล่อยตัวหลัง 20 เดือน แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ถูกจับกุม และต้องเข้าคุกอีกครั้งในปี 2023 ในข้อหาฉ้อโกงอีกรอบ จนทำให้หลายๆ คนพูดว่า ‘สแกมเมอร์ หรือคนหลอกลวง ยังไงก็ยังเป็นหลอกลวงอยู่ดี’
นอกจากเคสนี้แล้ว ยังมีกรณีของหมอในออสเตรเลีย ที่ปลอมเป็นหมอ หลอกคนยาวนานได้ถึง 10 ปี กับเคสของ ราฟาเอล ดิ เปาโล ที่ปลอมเป็นแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์ในเมลเบิร์นตั้งแต่ปี 2004-2014 และมีเหยื่อมากถึง 30 คน
เปาโลหลอกว่าตนเป็นแพทย์ด้านการเจริญพันธ์ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเรียนหมอมาก่อนเลย และสุดท้ายถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานรักษาเหยื่อแบบผิดๆ ตั้งแต่การนําน้ําอสุจิออกจากอัณฑะด้วยเข็มไป จนถึงการฉีดสารที่ไม่รู้จักเข้าไปในท้องของผู้หญิง เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาหลายสิบข้อ รวมถึงการได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยการหลอกลวง การล่วงละเมิดทางเพศโดยการฉ้อโกง และการทําร้ายร่างกายทั่วไป ก่อนสุดท้ายเปาโลถูกตัดสินจำคุก 9 ปี 6 เดือน
สองเคสนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเล็กๆ ที่การปลอมเป็นหมอก่อให้เกิดคนหลงเชื่อ และผู้เสียหาย ซึ่งก็มีทั้งความเสียหายทางร่างกาย และทรัพย์สินด้วย
ทำไมคนถึงปลอมเป็นหมอ ? ทำไมถึงมักเป็นอาชีพนี้
การหลอกลวง สแกมเมอร์ หลอกเป็นบุคคลอื่นๆ มีมากมาย แต่เรียกได้ว่า เคสการปลอมเป็นหมอนั้น มีพบเห็นค่อนข้างบ่อย และมีการจับกุม ดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก โดยในออสเตรเลียยังมีสถิติว่า ภายใน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2014-2019 มีการฟ้องร้อง และตัดสินคดีถึง 50 ครั้ง เกี่ยวกับการหลอกลวงว่ามีใบประกอบอาชีพทางการแพทย์
บทความใน The Conversation อธิบายไว้ว่า การแอบอ้างเป็นหมอ ถือเป็นปรากฏการณ์สมัยใหม่ เพราะหน้าที่แพทย์ที่ถูกยกให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ซึ่งแตกต่างจากภาพลักษณ์ของแพทย์ในสมัยก่อนที่เป็นเพียงอาชีพหนึ่งที่ถูกจ้างงานมารักษาคน รวมไปถึงการวิจัยทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ที่มากขึ้นเป็นจำนวนมาก ก็เป็นอีกปัจจัยด้วย
โดยเมื่อหมอกลายเป็นอาชีพที่มีความหมายบางอย่าง ค่าธรรมเนียมในการเข้าถึงหมอแพงขึ้น และการจะเป็นหมอได้ มีระบบกฎหมาย การลงทะเบียนว่าทางการแพทย์ควบคุมว่าใครสามารถใช้ และไม่สามารถใช้ชื่อทางการแพทย์ได้ ดังนั้น ‘เมื่อพิจารณาจากสถานะทางสังคม และเงินเดือนในปัจจุบันของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าทําไมผู้คนถึงปรารถนาที่จะเป็นแพทย์’ บทความระบุ
ทั้งจากบทสัมภาษณ์ของสำนักข่าว ABC ของ ดร.แดนนี่ ซัลลิแวน จิตแพทย์นิติเวช และผู้อํานวยการบริหารบริการทางคลินิกที่สถาบันนิติเวชจิตวิกตอเรีย ในออสเตรเลียเอง ก็มองว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่มิจฉาชีพหลอกลวง และปลอมเป็นแพทย์ รวมถึง ‘ความปรารถนาในศักดิ์ศรี’ หรือเพื่อสร้างความประทับใจให้กับครอบครัว รางวัลทางการเงิน หรือความไว้วางใจและความมั่นใจที่ ได้รับความชื่นชมจากประชากรทั่วไป
ดร.ซัลลิแวนยังบอกว่า จริงๆ แล้วการปลอมเป็นหมออาจจะพูดได้ว่าเป็นเรื่องง่ายก็ได้ หากพูดในมุมว่า บุคคลนั้นแค่ต้องมีความกล้า ซื้ออุปกรณ์เหมือนการแพทย์มา สั่งทำนามบัตรที่มีชื่อตัวเอง และใส่คำว่า ‘ดร.’ ทั้งการการท้าทาย หรือกล่าวหาว่าพวกเขาเป็นหมอปลอมยังถึงว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเรามักเชื่อใจหมอ ซึ่งบางครั้งหน่วยงาน คณะกรรมการทางการแพทย์คาดหวังให้ผู้ป่วยตรวจสอบชื่อของแพทย์ตามเว็บไซต์ “แต่หากคุณเห็นใครบางคนในโรงพยาบาลสวมเสื้อคลุมสีขาว สมมติฐานก็คือพวกเขาได้รับการอนุมัติจากคนอื่นแล้ว” หมอซัลลิแวนชี้
นักจิตเวช ยังมองว่า หมอปลอมเองมักมองอาชีพของหมอในภาพของฮีโร่ และสิ่งที่หมอปลอมต่างๆ เหมือนกันคือเลือกปลอมเป็นอาชีพนี้ ที่ทําให้พวกเขามีชื่อเสียงหรือได้รับการยอมรับในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง การแอบอ้างนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต ซึ่งมีหลายเคสที่พบว่า นักต้มตุ๋นเหล่านี้ มีอาการโรคซึมเศร้าหรือมีปัญหาเรื่องการใช้สารเสพติด “แต่ในกรณีส่วนใหญ่พวกเขามีปัญหาทางบุคลิกภาพ คําศัพท์ทางเทคนิคที่เราใช้เพื่ออธิบายพวกเขาคือ 'นักจินตนาการ'” และ คนเหล่านี้มักจะแสวงหาการอนุมัติจากผู้อื่นเสมอ” ซัลลิแวนสรุป
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
