กทม.สั่งตรวจสอบความปลอดภัยอาคารระหว่างรื้อถอนทั้งหมด

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ และนายอมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเหตุเครนขัดข้อง ส่งผลให้ชิ้นส่วนอาคารร่วงหล่นลงสู่พื้นบริเวณหน้าอาคารศรีเฟื่องฟุ้ง แขวงสีลม เขตบางรัก ซึ่งอยู่ระหว่างการรื้อถอนนายชัชชาติ เปิดเผยว่า อาคารดังกล่าวเป็นตึกสูง 12 ชั้น และมีชั้นลอย 2 ชั้น ได้รับอนุญาตรื้อถอนตามใบอนุญาต แบบ อ.1 เลขที่ 104/2567 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2567 โดยในวันที่เกิดเหตุ พบว่าเครนมีปัญหาไฟฟ้าช็อตบริเวณด้านบน เมื่อระบบไฟฟ้าขัดข้องทำให้ระบบเบรกไม่ทำงาน ส่งผลให้ชิ้นส่วนอาคารร่วงหล่นลงมากระแทกพื้นที่ด้านล่าง ซึ่งนับเป็นเหตุอันตรายและไม่ควรเกิดขึ้น“โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เป็นเรื่องที่ต้องเร่งทบทวนกระบวนการทำงานให้รัดกุมยิ่งขึ้น” พร้อมสั่งการให้สำนักการโยธาเร่งตรวจสอบอาคารที่อยู่ระหว่างการรื้อถอนทั่วกรุงเทพฯ โดยอาคารศรีเฟื่องฟุ้งได้สั่งหยุดการรื้อถอนทันทีจนกว่าจะทราบสาเหตุที่ชัดเจนและหามาตรการป้องกันนายชัชชาติ เน้นย้ำว่า อาคารที่มีความสูงเกิน 8 ชั้น จะต้องขออนุญาตรื้อถอนจากสำนักโยธาธิการ กทม. ขณะที่อาคารต่ำกว่า 8 ชั้น สามารถขออนุญาตที่สำนักงานเขต ทั้งนี้ต้องให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อประชาชน เช่น มลพิษทางเสียง ฝุ่น การสั่นสะเทือน และความปลอดภัย ซึ่งในหลายพื้นที่ที่มีการก่อสร้างใกล้ที่อยู่อาศัย มักมีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องด้านนายอมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ ระบุว่า การสอบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์นี้จะมุ่งเน้นไปที่ 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. ขั้นตอนการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามแผนหรือไม่ และ 2. ความบกพร่องของอุปกรณ์ โดยเฉพาะระบบเบรกหรือ Safety Lock ที่ควรป้องกันการหลุดร่วงในกรณีไฟฟ้าช็อต คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วันในการสรุปสาเหตุที่แท้จริงกรุงเทพมหานครจะเร่งปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจและลดความเสี่ยงในอนาคต