รีเซต

เป็นงงทั้งหมู่บ้าน!! 'คนยังเป็น' โดนผู้ใหญ่บ้านแจ้งตาย เตรียมเบิกเงินฌาปนกิจศพ

เป็นงงทั้งหมู่บ้าน!! 'คนยังเป็น' โดนผู้ใหญ่บ้านแจ้งตาย เตรียมเบิกเงินฌาปนกิจศพ
มติชน
30 เมษายน 2563 ( 12:13 )
231
1
เป็นงงทั้งหมู่บ้าน!! 'คนยังเป็น' โดนผู้ใหญ่บ้านแจ้งตาย เตรียมเบิกเงินฌาปนกิจศพ

 

ญาติและชาวบ้านต่างเป็นงง หลังทราบข่าวว่าผู้ใหญ่บ้าน แจ้งลูกบ้านตาย แล้วเตรียมเบิกเงินฌาปนกิจศพร่วม 8 หมื่น ญาติร้องอำเภอหลานยังไม่ตาย ผู้ใหญ่โร่แก้ไขให้ เมียผู้ใหญ่ยอมรับเป็นผู้รับผลประโยชน์เอง ขณะผู้ใหญ่บ้านระบุแจ้งตายจริง หลังญาติท้วงติงก็คืนสิทธิ์ให้แล้ว ชี้เงินฌาปนกิจยังไม่ได้ เพราะยังขัดแย้งกันอยู่

 

วันที่ 30 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ว่าผู้ใหญ่บ้านมีพฤติกรรมทุจริต แจ้งตายลูกบ้านตัวเอง แทนญาติ แล้วพยายามเบิกเงินฌาปนกิจศพร่วม 80,000 บาท อยากให้มาช่วยหาความกระจ่าง เพราะร้องเรียนมานานร่วม 5 เดือนเรื่องเงียบ เกรงว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน

 

จากการตรวจสอบที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ตูมใหญ่ พบนายต่วน ดีชัยรัมย์ อายุ 59 ปี เล่ากับผู้สื่อข่าวว่า หลานตัวเองชื่อนายสมเกียรติ บริสุทธิ์ อายุ 51 ปี พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ออกจากบ้านไปทำงานอยู่กับญาติที่ จ.ระยอง เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยกลับบ้าน ญาติทางบุรีรัมย์ คิดเสมอว่าอยู่ญาติกับที่ จ.ระยอง

 

กระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้มีคณะกรรมชมรมฌาปนกิจศพผู้สูงอายุตำบลตูมใหญ่ มาเก็บเงินค่าศพๆละ 50 บาท เมื่ออ่านดูใบเสร็จรับเงินพบว่าผู้ตายคือนายสมเกียรติ ซึ่งเป็นหลานตัวเองที่ออกจากบ้านไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว

 

 

ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ผู้ที่แจ้งว่าหลานตัวเองเสียชีวิตคือนายสมศักดิ์ พรภิญโญยิ่ง ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งที่ครอบครัวและญาติไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าหลานตัวเองเสียชีวิตตอนไหน

และได้รับคำตอบจากผู้ใหญ่บ้านในเวลาต่อมาว่า มีคนข้างบ้านผู้ใหญ่บ้านแจ้งมาว่า นายสมเกียรติ เสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางไปอำเภอเพื่อแจ้งตายแล้วคัดออกจากทะเบียนบ้านทันที ยอมรับไม่ได้ไปสอบถามญาติ

 

ทางญาติได้ไปร้องที่ อ.คูเมือง จนกระทั่งผู้ใหญ่บ้านกลับไปแก้เอกสารใหม่ให้ผู้ตายฟื้นกลับมามาชีวิต(ในเอกสาร)นายต่วน เล่าด้วยว่า การเสียชีวิตของคนในตำบลตูมใหญ่ ที่เข้าเป็นสมาชิกชมรมฯ จะได้รับเงินประมาณ 80,000 บาทต่อศพ แต่ญาติยังไม่ได้รับเงิน ถึงตอนนี้ผ่านมาร่วม 5 เดือนเรื่องก็เงียบหายไป

 

 

สอบถาม นายสมศักดิ์ พรภิญโญยิ่ง กล่าวว่า ตอนนั้นทราบข่าวจากญาติว่า นายสมศักดิ์ ได้เสียชีวิตไปแล้ว เพราะหายสาบสูญไป ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านและยอมรับว่าสับเพล่า เดินทางไปแจ้งตายด้วยตัวเองโดยไม่สอบถามใคร ส่วนการนำเอาชื่อนายสมเกียรติ เข้ามาเป็นสมาชิกชมรมฯ เป็นความคิดของภรรยาเอง

 

 

ด้านนางลำไย พรภิญโญยิ่ง อายุ 47 ปี ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ตอนนั้นนายสมเกียรติ ถือว่าไม่มีญาติ เพราะพ่อแม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว และนายสมเกียรติ ได้มาคุยกับตนว่า อยากให้เอาชื่อเข้าเป็นสมาชิกชมรมฯด้วย “ถ้าผมตายไปแล้วจะได้มีเงินทำศพให้ผม”ตนจึงทำให้ และเป็นผู้จ่ายเงินค่าศพๆละ 50 บาทหากสมาชิกเสียชีวิตมาโดยตลอด 10 ปี และยอมรับในสัญญาระบุให้ตนเองเป็นผู้รับผลประโยชน์หากนายสมเกียรติ เสียชีวิต แต่สุดท้ายตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงิน 80,000 บาท เป็นค่าปลงศพจากชมรมฯแต่อย่างใด เพราะได้มีการแก้ไขในเอกสารไปแล้วว่านายสมเกียรติ ยังมีชีวิตอยู่ในทะเบียนบ้าน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง