เปิดบ้าน-ห้องเทรด 'โค้ชเจ CJ.SuperTrader' เผยสูตรลับเทรด 5 สินทรัพย์ ปั้นพอร์ตสร้างความมั่งคั่ง

TNN Wealth X บุกเยี่ยมบ้านและห้องเทรดของ โค้ชเจ - สรวิศ กลั่นแก้ว CJ.SuperTrader เทรดเดอร์หนุ่มที่สามารถสร้างความมั่งคั่งจนเป็นเจ้าของบ้านหลังใหญ่ได้จากอาชีพเทรดเดอร์ พร้อมเปิดใจถึงเส้นทางจากวิศวกรสู่ Full Time Trader และเผย "สูตรลับ" การบริหารพอร์ต 5 สินทรัพย์ ที่แบ่งหน้าที่ชัดเจนระหว่างการลงทุนเพื่อความมั่งคั่งและการเทรดเพื่อสร้างกระแสเงินสด
โค้ชเจเล่าว่า จุดเริ่มต้นของเขาคือการเป็นวิศวกรในบริษัทรถยนต์นาน 5 ปี และเก็บเงินเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่แผนต้องเปลี่ยนไปเมื่อเจอสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเดินทางไปต่างประเทศต้องหยุดชะงัก เขาจึงใช้ทักษะด้านการลงทุนที่ศึกษามานานกว่า 15 ปี พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสและก้าวเข้าสู่เส้นทางเทรดเดอร์เต็มเวลา
"ความยากที่สุดของอาชีพนี้คือการควบคุมจิตใจตัวเอง ทั้งความโลภ ความกลัว และการต่อสู้กับอารมณ์ข้างในล้วนๆ" โค้ชเจกล่าว "ถ้าเราควบคุมตัวเองได้ มีเป้าหมายที่ชัดเจน และพาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ใช่ อาชีพนี้ก็ถือเป็นอาชีพที่ดีมากที่เราสามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้ 100%"
หัวใจสำคัญที่ทำให้พอร์ตของโค้ชเจเติบโตอย่างยั่งยืน คือการแบ่งพอร์ตและสินทรัพย์ออกเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน โดยใช้กำไรจากกลุ่มเทรด มาต่อยอดในกลุ่มลงทุน
กลุ่มที่ 1: ลงทุนระยะยาว (ถือ/Let Profit Run) กลุ่มนี้เปรียบเสมือนแกนหลักในการสร้างความมั่งคั่งระยะยาว
- หุ้นไทย: Swing Trade หุ้นขนาดใหญ่ใน 5 Sector หลัก ใช้ระบบเส้นค่าเฉลี่ย (EMA) 4 เส้นบน Timeframe Day ในการหาจังหวะ "ย่อซื้อ" และขายทำกำไรเป็นรอบๆ
- หุ้นสหรัฐฯ (อเมริกา): ใช้กลยุทธ์คล้ายหุ้นไทย แต่เน้นไปที่หุ้นเทคโนโลยีที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน (Google, Tesla, Shopee) ซึ่งให้ผลตอบแทนต่อรอบสูงกว่า
- บิตคอยน์ (Bitcoin): มองเป็นการลงทุนเพื่อการเกษียณ ไม่ดูกราฟซับซ้อน แต่จะเข้าซื้อสะสมเมื่อเกิดสัญญาณขายมากเกินไป (RSI ต่ำกว่า 30 ใน Timeframe Day)
กลุ่มที่ 2: เทรดสร้างกระแสเงินสด (Cash Flow) กลุ่มนี้เน้นการทำกำไรในระยะสั้นเพื่อนำเงินสดมาใช้จ่ายและต่อยอดการลงทุน
- TFEX (SET50 Futures): ใช้ทั้งการ Swing Trade ตามรอบใหญ่ และ Day Trade ใน Timeframe 5 นาที เพื่อสร้างรายได้รายวัน
- ทองคำ (XAUUSD): เป็นสินทรัพย์ที่ทำกำไรได้เร็วที่สุด แต่ก็เสี่ยงสูงสุดเช่นกัน โดยมีกฎเหล็กคือ ใส่เงินเท่าที่ยอมเสียได้ และจะเทรดเฉพาะช่วงเวลาที่มีปริมาณซื้อขายสูง (Kill Zone) 3 ช่วงต่อวันเท่านั้น (รอบเช้า, บ่าย, และค่ำ)
โค้ชเจย้ำว่าการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้วัดกันที่ว่าทำกำไรได้มากแค่ไหน แต่วัดกันที่ว่า "อยู่รอด" ได้นานเพียงใด โดยเขามีหลักการสำคัญคือ
"ช่วงแรกคือการ Take Risk เพื่อเติบโต แต่พอถึงจุดหนึ่งเราต้องกันการถอยกลับ ผมจะแบ่งเงินไปลงในสินทรัพย์ที่สภาพคล่องต่ำอย่างบ้านหรือที่ดิน เพื่อสร้าง 'จุดเซฟ' ของชีวิต สินทรัพย์เหล่านี้จะกลายเป็นหลักประกันให้เรา แม้วันหนึ่งเราจะพลาดในตลาดก็ตาม"
นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้เขายังคงยืนหยัดในเส้นทางเทรดเดอร์ได้อย่างมั่นคง และเป็นข้อคิดสำคัญสำหรับทุกคนที่ฝันอยากจะประสบความสำเร็จในอาชีพนี้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
