ขั้นตอน "ย้ายสิทธิบัตรทอง" เปลี่ยนโรงพยาบาลผ่านออนไลน์ รักษาได้ทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน

สปสช.เผย ประชาชน "สิทธิบัตรทอง" หรือ "บัตร 30 บาท" สามารถเปลี่ยนหน่วยบริการ โรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลประจำ ได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชั่น "สปสช." เข้ารักษาได้ทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน
ผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ "บัตรทอง" สามารถเปลี่ยนหน่วยบริการได้ด้วยตัวเอง ผ่านทางแอปพลิเคชั่น "สปสช." และสามารถเข้ารักษาที่หน่วยบริการใหม่ได้ทันที โดยกำหนดให้ย้ายสิทธิบัตรทองได้ไม่เกิน 4 ครั้ง/ปี เท่านั้น
เงื่อนไขการลงทะเบียนย้ายสิทธิบัตรทอง หรือ เปลี่ยนโรงพยาบาล
1. ผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่น สปสช.ต้องมีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ "บัตรทอง" หรือสิทธิว่าง
2. ลงทะเบียนด้วยตนเองเท่านั้น ยังไม่สามารถลงทะเบียนแทนบุคคลครอบครัวได้
ประชาชนสิทธิบัตรทอง เปลี่ยนหน่วยบริการ (สถานพยาบาลประจำของท่าน) ได้ง่ายๆ ผ่านแอป สปสช.
ขั้นตอนการย้ายสิทธิบัตรทอง หรือ เปลี่ยนโรงพยาบาล
1. กดเมนูลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ ระบบจะแสดงผลที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
• กรณีที่อยู่ปัจจุบันตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน เลือกเมนู “ตรง” ถ่ายรูปบัตรประชาชนโดยใช้กล้องหลัง ถ่ายรูปเซลฟีคู่กับบัตรประชาชนโดยใช้กล้องหน้า
• กรณีที่พักอาศัยไม่ตรงกับบัตรประชาชนเลือกเมนู “ไม่ตรง” และแนบหลักฐานการพักอาศัยปัจจุบัน เช่น บิลค่าน้ำ ค่าไฟ หรือหนังสือรับรองเจ้าของบ้าน หรือสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อดาวน์โหลดแบบคำร้อง ระบุที่อยู่ปัจจุบัน
2. ระบบจะแสดงเครือข่ายหน่วยบริการที่สามารถเลือกได้
3. กดเลือกเครือข่ายหน่วยบริการที่ต้องการ และกดยืนยันการเลือก
ระบบจะแสดงผลว่าได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
4. กดถัดไป
• สิทธิเกิดใหม่ทันทีที่เครือข่ายหน่วยบริการที่เลือกไว้
• หรือเข้าเมนูตรวจสอบสิทธิ เพื่อดูรายละเอียดสิทธิที่เกิดใหม่ได้เช่นกัน
• เปลี่ยนหน่วยแล้วสิทธิเกิดทันที ย้ายได้ 4 ครั้งต่อปี
สามารถรับชมคลิปวิดิโอ เปลี่ยนหน่วยบริการผ่านแอปพลิเคชัน สปสช.ได้ด้วยตนเองผ่านทาง Youtube https://youtu.be/OkaUoRWdYvk
ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. @nhso
หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ข้อมูลจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ภาพจากแฟ้มภาพ TNN Online