รีเซต

สุดทน! ตื่นทั้งหมู่บ้าน โจรปีนรั้วขโมยถี่ พีคสุดคืนเดียว 10 หลังรวด

สุดทน! ตื่นทั้งหมู่บ้าน โจรปีนรั้วขโมยถี่ พีคสุดคืนเดียว 10 หลังรวด
มติชน
22 ตุลาคม 2565 ( 16:40 )
89
สุดทน! ตื่นทั้งหมู่บ้าน โจรปีนรั้วขโมยถี่ พีคสุดคืนเดียว 10 หลังรวด

จากกรณี เพจ Drama-addict ได้โพตส์ข้อความพร้อมกับลงภาพกล้องวงจรปิดกำลังก่อเหตุปีนบ้านเข้าไปขโมยของ ระบุว่า ลูกเพจแจ้งมา หมู่บ้านเขาโจรขึ้นบ้านหลายหลังแล้ว เห็นว่าขนาดมี คนอยู่ในบ้าน แม่งยังปืนเข้าไปปลันเลย สามเดือนนี้แถวบ้านเขาโดน หลายหลัง ชาวบ้านไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ตำรวจยังไม่มี เบาะแส ยังจับคนร้ายไม่ได้ มีแต่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ชาวบ้าน เขาติดกันเองแบบในภาพ #แต่งชุดห่าไรเข้าไปปล้นบ้านเขาเนี่ย ชาวบ้านเขาเลยร้องขอความช่วยเหลือมา ถ้า จนท. หรือสื่ออยากได้เบอร์ติดต่อ หลังไมค์มาเลยคนับ พิกัดพัทยา แถวหนองปรือ จนมีคนเข้าไปคอมเมนต์และแชร์ข้อความดังกล่าวจำนวนมาก

 

ล่าสุดเวลา 12.00 น. วันที่ 22 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปตรวจสอบหมู่บ้านดังกล่าว ในต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยเป็นหมู่บ้านโครงการใหญ่ มีบ้านเรือนประมาณ 270 หลัง ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังลงพื้นที่ไป พบว่า กลุ่มลูกบ้านประมาณ 10 คน กำลังรวมตัววิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้น

 

นางสาวชิชนิตยา อายุ 38 ปี เจ้าของบ้านที่กล้องวงจรปิด สามารถบันทึภาพขณะที่คนร้ายกำลังปีนเข้ามาขโมยของ แล้วล้วงเอาเงินสดในกระเป๋าเสื้อจำนวน 600 บาท หลบหนีไป โดยลักษณะของคนร้าย เป็นชาย สูงประมาณ 160-170 ซม. มีรอยสักที่แขนทั้ง 2 ข้าง นุ่งกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ โดยใช้เสื้อโพกศีรษะปิดบังใบหน้า ใช้เวลาก่อเหตุประมาณไม่ถึง 3 นาที แล้วปีนหนีออกไป

 

เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังต่ออีกว่า ในคืนของวันที่ 20 ตุลาคม เวลาประมาณเที่ยงคืน กำลังนอนดูโทรทัศน์กับสามีในบ้าน โดยไม่คิดเอะใจอะไรจนกระทั่งหลับไป ตื่นเช้าขึ้นไปล้วงจะเอาเงินในกระเป๋าเสื้อ ก็พบว่าเงินหายไปหมด จึงโทรศัพท์ ไปถามสามี ซึ่งสามียืนยันว่าไม่ได้เป็นคนหยิบ จากนั้นก็มาดูกล้องวงจรปิดย้อนหลัง จนปรากฎภาพชายดังกล่าวเข้ามาก่อเหตุ จึงรีบไปแจ้งความ แต่ปรากฎว่า ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ยิ่งทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย วันนี้คนร้ายแค่เข้ามาขโมยของ แต่ถ้ามาเจอเด็กหรือคนแก่ อยู่กันตามลำพัง และถูกก่อเหตุสลดมากกว่านี้ แล้วลูกบ้านจะทำอย่างไร

 

นอกจากนี้ในคืนวันเดียวกัน (20 ตุลาคม) คนร้ายไม่ได้ก่อเหตุแค่เพียงหลังเดียว แต่ยังไปก่อเหตุปีนบ้านหลังอื่นอีก 5 หลัง แต่ละหลัง ไม่มีร่องรอยการงัดแงะ มีเพียงรอยเท้าของคนร้าย และ ร่องรอยรื้อค้นทรัพย์สิน ตามห้องเก็บของ ของ ชั้นวางรอบๆตัวบ้าน

ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป ส่วนใหญ่จะเป็นเงินสด ซึ่งบ้านที่สูญเงินมากสุดคือ 2,000 บาท

นาย รุ่งโรจน์ อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านอีกหลังได้พาไปชี้จุด ที่ปีนรั้วกำแพงเข้าไปก่อเหตุ เปิดเผยว่า พฤติกรรมของร้าย จะทำทีขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาวนเวียนในหมู่บ้าน พอเห็นบ้านไหน ปิดบ้านเงียบแต่เปิดไฟทิ้งไว้ ก็จะปีนเข้าไปก่อเหตุ โดยบ้านข้างๆ ได้ยินเสียงผิดปกติก่อน จึงลุกขึ้นมาดู และได้ประชันหน้ากับคนร้าย แต่เจ้าของบ้านตั้งสติได้ จึงตะโกนไล่ ให้คนร้ายออกไป และตะโกนขอความช่วยเหลือ จนชาวบ้านพากันแตกตื่นออกมาช่วย ส่วนคนร้ายก็สามารถหลบหนีไปได้

นายรุ่งโรจน์เล่าต่ออีกว่า หมู่บ้านดังกล่าว เป็นหมู่บ้านมีอายุเกือบ 10 ปี ช่วงแรกๆที่หมู่บ้านเปิดใหม่ หน้าหมู่บ้าน มี รปภ. ดูแลลูกบ้าน 24 ชม. แต่มาช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา หลังโครงการหมู่บ้านขายหมด เจ้าของหมู่ก็ไม่เคยมาสนใจ รปภ.ก็ไม่มี ตู้ยามทางเข้าหมู่บ้านก็ปล่อยรกร้าง จะขอจดนิติบุคคล ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก กรมที่ดินเข้ามาตรวจสอบ พบว่าถนนในหมู่บ้านไม่ได้ขนาดที่กฏหมายกำหนด จนลูกบ้านต้องอยู่กันแบบตามมีตามเกิด ในแต่ละปี ถูกคนร้านก่อเหตุ ยกเค้า ลักทรัพย์ นับครั้งไม่ถ้วน แจ้งความกับตำรวจก็จับคนร้ายไม่ได้

นายวัลลพ อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านอีกหลัง เล่าความเจ็บปวดให้ฟังว่า เมื่อ 2 เดือนก่อน ถูกคนร้ายในคราบ ฟู้ดไรเดอร์ แห่งหนึ่ง เข้ามาทำทีส่งอาหารในหมู่บ้าน ก่อนจะก่อเหตุถอดไฟท้ายรถ อีซูซุ ดีแม็ก 4 ประตู สีขาว ป้ายแดง เพิ่งถอยออกจากโชว์รูม ได้เพียง 4 วัน โดยถูกขโมยไปทั้ง 2 ข้าง กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ ขณะคนร้านขี่รถวนหลาย 10 รอบ ก่อนจะลงมือก่อเหตุ แต่ไปแจ้งความดำเนินคดี ทางเจ้าหน้าที่ได้แต่รับแจ้งความ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สภ.หนองปรือ เจ้าของพื้นที่ ที่เกิดเหตุ และได้รับการเปิดเผยว่า ในขณะที่ได้ส่งฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและเบาแสของคนร้ายแล้ว โดยกำลังให้ไล่ดูกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางต่างๆ ใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ และ จะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง