เกาหลีเหนือจะทดสอบนิวเคลียร์ ระหว่างจีนประชุมพรรคหรือไม่?
---ทดสอบนิวเคลียร์ครั้งหลังสุดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว---
เกาหลีเหนือทำการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งหลังสุด คือ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2017 หรือเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ในตอนนั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้เตรียมการต้อนรับผู้นำของกลุ่ม BRICS ซึ่งประกอบด้วย บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย และแอฟริกาใต้ อันเป็นความพยายามในการสร้างภาพลักษณ์ของรัฐบุรุษระดับโลก ก่อนที่จะมีการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ (CCP) ในเวลาต่อมา
สำหรับการทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดินของเกาหลีเหนือครั้งนั้น เป็นครั้งที่ 6 ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนคล้ายแผ่นดินไหว วัดความแรงได้ 6.3 ที่ทำให้บ้านเรือนบริเวณพรมแดนจีน-เกาหลีเหนือสั่นไหว
พร้อมกับความหวาดกลัวว่า จะเกิดการแผ่กระจายของสารกัมมันตรังสีในพื้นที่ อีกทั้งแรงระเบิดยังทำให้ภูเขาในพื้นที่ใกล้เคียงมีความลาดชันที่เปลี่ยนไป
การทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 นั้น เกาหลีเหนือระบุว่า “สำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ” และชี้ว่า เป็นการระเบิดไฮโดรเจน ตามมาด้วยการทดสอบขีปนาวุธต่อเนื่องอีกหลายเดือน รวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกล ที่อ้างว่าสามารถยิงได้ถึงแผ่นดินของสหรัฐฯ ด้วย
การทดสอบครั้งนี้ทำให้นักวิเคราะห์ทั้งในจีนและสหรัฐฯ ออกมาประณามความเคลื่อนไหวทันที และชี้ว่า การทดสอบดังกล่าวเป็นเหมือนการ “ดูถูก” จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรของเกาหลีเหนือมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็น “ความน่าอับอายทางการทูต” ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ในเวลานั้น เพิ่งได้รับการยืนยันว่าดำรงตำแหน่งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์สมัยที่ 2
ครั้งนั้น จีนได้ตอบโต้เกาหลีเหนือ ด้วยการร่วมคว่ำบาตรในเวทีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ที่มีสหรัฐฯ ผลักดัน พร้อมตัดลดการจ่ายน้ำมันให้เกาหลีเหนือ และส่งกลับแรงงานเกาหลีเหนือกว่า 100,000 คน
---เดินหน้าพัฒนาศักยภาพกองทัพ---
ผ่านมา 5 ปี ศักยภาพด้านการทหารของเกาหลีเหนือ ก็ดูเหมือนจะเติบโตขึ้นตามไปด้วย
คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เดินหน้าพัฒนาศักยภาพกองทัพ, ขีปนาวุธ และนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เจรจากับอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2019 ล้มเหลวลง
อีกทั้งยังมีภาพของคิมเข้าร่วมรับชมการยิงทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก (hupersonic) และขีปนาวุธข้ามทวีป (intercontinental ballistic missiles) พร้อมกับการประกาศกฎหมายใหม่ ที่สามารถยิงโจมตีด้วยนิวเคลียร์ก่อนได้เลย หากมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อผู้นำและประเทศ
ทำให้ตอนนี้ บรรดานักวิเคราะห์มองว่า ภาพ “เดจาวู” กำลังจะกลับมาอีกครั้ง และเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 7 ในระหว่างที่จีนจะจัดประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ (CCP) ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุก 5 ปี ในเดือนนี้ ซึ่งคาดว่า ปธน.สี จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมัยที่ 3 ต่อไป
ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้คาดว่า เกาหลีเหนือจะทดสอบนิวเคลียร์ระหว่าง 16 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ ที่จะมีคนมาร่วมประชุมมากกว่า 2,300 คน ในกรุงปักกิ่ง จนถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน ซึ่งสหรัฐฯ จัดการเลือกตั้งกลางเทอม
---เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์เร็ว ๆ นี้หรือไม่---
ขณะที่ นักวิเคราะห์บางคนกลับมองว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้
อีนาร์ ทังเจน นักวิเคราะห์ในกรุงปักกิ่ง ระบุว่า “หากเกาหลีเหนือจะทำการทดสอบนิวเคลียร์ในช่วงที่จีนจัดประชุมพรรค น่าจะเป็นการมองว่า ทำไปเพื่อต่อต้านจีนมากกว่า ดังน้ัน จึงคาดว่า น่าจะมีขึ้นช่วงที่สหรัฐฯจัดเลือกตั้งกลางเทอมมากกว่า เพราะเกาหลีเหนือค่อนข้างกังวลไม่น้อยเรื่องที่จะถูกสหรัฐฯตอบโต้ในช่วงเวลาเดียวกัน”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คนอื่น ๆ มองว่า คิม ไม่น่าจะสนใจความกังวลของจีนมากนัก เพราะสิ่งเดียวที่คิมสนใจ นั่นคือการบรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินการยิงทดสอบขีปนาวุธติดนิวเคลียร์ ซึ่งคิมกล่าวว่า เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะใช้ในการขัดขวาง “กองกำลังที่เป็นปรปักษ์”
การคาดการณ์นี้ มีขึ้นพร้อม ๆ กับเหตุการณ์ที่เกาหลีเหนือเพิ่งยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามเกาะญี่ปุ่นเมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งครั้งหลังสุดที่เกาหลีเหนือทำเช่นนี้ ก็คือเมื่อปี 2017 หรือเมื่อ 5 ปีก่อนนั้นเช่นกัน
อีกทั้งเช้าวันนี้ เกาหลีเหนือยังได้ยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้อีก 2 ลูกเพื่อตอบโต้ ที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ซ้อมรบทางอากาศร่วมกัน
“คาดกันก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนือจะงดเว้นการทดสอบใด ๆ จนกว่าจีนจะประชุมพรรค CCP สิ้นสุดลง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว และดูเหมือนว่า คราวนี้ เกาหลีเหนือจะไม่ได้สนใจการประชุมครั้งใหญ่ที่สุดของจีนมากขนาดนั้น .. พฤติกรรมของเกาหลีเหนือ เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ” เอลเลน คิม จากศูนย์การศึกษากลยุทธ์นานาชาติในสหรัฐฯ กล่าว
---ส่องความคิดเห็นบรรดาผู้เชี่ยวชาญ---
คิม แจชุน ศาสตราจารย์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยโซกัง ในกรุงโซล ระบุว่า ที่ผ่านมาจีนก็ต่อต้านการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เพราะเป็นการทำลายเสถียรภาพด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
อีกทั้งจะยิ่งเป็นการเปิดทางให้สหรัฐฯ สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวทางการทหารในภูมิภาคได้มากขึ้นอีกด้วย รวมถึงการหวนกลับคืนของขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ในเกาหลีใต้ หลังจากที่สหรัฐฯ ประจำการฐานทัพนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเกาหลี เมื่อปี 1953
“จีนไม่ยินดีกับปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน ... และพวกเขาก็คงไม่อยากจะปวดหัวเพิ่มเติมกับความวุ่นวายในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นไต้หวันก็วุ่นวายมากพอแล้ว” ศ.คิม กล่าว
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ลี ซองยูน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยทัฟทส์ กลับเชื่อว่า เกาหลีเหนืออาจทดสอบนิวเคลียร์ก่อนการประชุม CCP ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบวันก่อตั้งพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ
“หากเกิดขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคม เชื่อว่าจีนจะหงุดหงิดมาก แต่พวกเขาก็จะต้องเดินหน้าจัดงานใหญ่ต่อไป ซึ่งก็อาจทำให้การทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งเหมือนเป็นการดูหมิ่นจีน อาจถูกลืมเลือนไปในช่วงเวลาดังกล่าว และเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา จีนก็ค่อนข้างจะล้มเหลวในการยับยั้งเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะปีนี้ที่ยิงทดสอบขีปนาวุธมากเป็นประวัติการณ์” ลี กล่าว
เมื่อเดือนพฤษภาคม จีนและรัสเซีย ใช้สิทธิ์วีโต้ในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของยูเอ็น ซึ่งก็อาจเป็นอีกครั้งที่จีนจะทำเป็นหลับหูหลับตา เมินเฉยต่อการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งเกาหลีเหนือก็รับรู้ได้ ว่าสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องรับโทษใด ๆ
—————
แปล-เรียบเรียง: ภัทร จินตนะกุล
ภาพ: Reuters
ข้อมูลอ้างอิง: