รีเซต

'แอฟริกาใต้' กระชับมาตรการคุมโควิด-19 หลังผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่อง

'แอฟริกาใต้' กระชับมาตรการคุมโควิด-19 หลังผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่อง
Xinhua
31 พฤษภาคม 2564 ( 14:06 )
38

 

โจฮันเนสเบิร์ก, 31 พ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อคืนวันอาทิตย์ (30 พ.ค.) ไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ แถลงข่าวทางสถานีโทรทัศน์ว่าแอฟริกาใต้เตรียมบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ระดับสอง เนื่องจากพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มขึ้นในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 3,745 รายต่อวัน

 

 

รามาโฟซากล่าวว่าจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่ของประเทศ ผู้ที่มีผลตรวจเป็นบวกเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากเดือนก่อน หรือจากราวร้อยละ 4 มาอยู่ที่มากกว่าร้อยละ 11 โดยมี 4 จังหวัดที่เกิดการแพร่ระบาดระลอกสามแล้ว ได้แก่ เคาเต็ง ซึ่งเป็น ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ ฟรีสเตต นอร์ธเทิร์นเคป นอร์ธเวสต์ ซึ่งจะลุกลามจนกลายเป็นการแพร่ระบาดระลอกสามทั่วประเทศในอีกไม่ช้า

 

 

คณะรัฐมนตรีจึงตัดสินใจบังคับใช้มาตรการแจ้งเตือนระดับ 2 ฉบับปรับปรุงใหม่ (Adjusted Alert Level 2) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ (31 พ.ค.) เป็นต้นไป

 

 

โดยจะมีการบังคับใช้ข้อจำกัดบางอย่าง เช่น มีมาตรการเคอร์ฟิวระหว่าง 23.00 น. ถึง 4.00 น. กำหนดให้กิจการที่ไม่มีความจำเป็น เช่น ร้านอาหาร บาร์ และศูนย์ฟิตเนส ปิดให้บริการภายในเวลา 22.00 น. รวมถึงจำกัดการรวมกลุ่มในร่มไว้ที่ไม่เกิน 100 คน และกลางแจ้งไม่เกิน 250 คน

 

 

รามาโฟซากล่าวว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมากกว่าร้อยละ 67 ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ซึ่งฉีดเพียงโดสเดียว ส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 480,000 คน ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ (Pfizer) โดสแรกแล้ว ตามแผนฉีดวัคซีนของประเทศ

 

 

รามาโฟซาทิ้งท้ายว่า แอฟริกาใต้มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพียงพอต่อการฉีดให้กับผู้ใหญ่ทุกคนในประเทศ ซึ่งมีจำนวนราว 40 ล้านคน โดยเป็นวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน แบบฉีดโดสเดียวซึ่งผลิตขึ้นในประเทศ 31 ล้านโดส และวัคซีนของไฟเซอร์อีก 20 ล้านโดส และเรื่องสำคัญที่สุดในขณะนี้คือการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศให้ได้มากและเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง