'พีระพันธุ์' โชว์ดีล-นั่งกุนซือหัวหน้าพปชร. แย้มคนจ่อเข้าเพียบ- 'ลูกชัช' นำร่องซบ

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมาถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานนะหัวหน้าพรรคพปชร.แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาแล้วได้มอบหมายงานอะไรให้เป็นพิเศษหรือไม่ ว่า ท่านให้ดูทุกเรื่อง ให้ช่วยทุกเรื่อง ไม่มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษและก็ได้คุยกันหลายเรื่องแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่นายพีระพันธุ์ชวนนายชื่นชอบ คงอุดม มาช่วยงานอะไรในพรรคพปชร. นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังไม่มี เรื่องนี้แล้วแต่พล.อ.ประวิตรพิจารณาต่อไป กับนายชื่นชอบทำงานด้วยกันมาตลอดอยู่แล้ว ในอดีตก็ยังไม่ได้สังกัดพรรคไหน เผอิญพ่อของนายชื่นชอบ หรือ นายชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท มีการตั้งพรรค นายชื่นชอบจึงต้องออกไปช่วย แต่พอตนมาสังกัดที่นี่จะมาช่วย 3 ท่านตรงนี้ จึงได้บอกนายชื่นชอบ เพราะเป็นพี่น้องกัน จึงมีการพูดคุยกันปกติ แล้วทางนายชื่นชอบก็สนใจจะมาช่วยงานตรงนี้ด้วยตนจึงชวนให้มาช่วยกันเลย

เมื่อถามว่านอกจากนายชื่นชอบแล้วจะมีคนอื่นทยอยเข้ามาอีกหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่มีคนให้ความสนใจเยอะ เพราะมีคนที่อยากทำงานกับตน แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีใครบ้าง เพราะยังไม่ได้คุยกันแต่เคยคุยกันว่าไปไหนให้บอกด้วย

เมื่อถามว่าต้องลงพื้นที่กับพล.อ.ประวิตร ด้วยหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า แล้วแต่โอกาส เพราะตนก็มีภารกิจอื่นอยู่ พล.อ.ประวิตรบอกให้ไปด้วยกันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ตนยังติดงานอย่างอื่นอยู่ เมื่อเคลีร์อะไรซาลงก็จะไปลงพื้นที่กับพล.อ.ประวิตร

นายชื่นชอบ คงอุดม กรรมการผู้ช่วยประจำกระทรวงการคลัง แกนนำพรรคพลังท้องถิ่นไท(พทท. )เปิดเผยว่า ตนย้ายไปสังกัดพรรคพปชร.จริง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม หลังจากนายพีระพันธ์ มาชวนให้ไปช่วยงาน ได้ปรึกษานายชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพทท. บิดาแล้วว่าจะมาช่วยงานตรงนี้ ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะเห็นว่าพรรคพปชร.ก็มีแนวทางเดียวกับพรรคพทท. ตนยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการบริหารพรรคพทท.และดำเนินการตามกติกาที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กำหนดทุกประการ ไม่น่าจะมีปัญหา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. ลงนามในใบสมัครรับตนเข้าพรรคแล้ว

“ผมคุ้นเคยกับพี่ตุ๋ย (พีระพันธ์ ) ตั้งแต่เป็นส.ส.สมัยแรกสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกัน พี่เขาก็ติวและสอนงานผม ถือเป็นคนที่มีศักยภาพ การที่ผมตัดสินใจย้ายมาอยู่พรรคพปชร.ไม่ใช่เป็นการทิ้งพรรคเล็กอย่างพทท. แต่เพราะเราเห็นว่าพรรคพปชร.มีศักยภาพพอที่จะเติบโตไปเป็นสถาบันทางการเมือง เป็นเสาที่แข็งแรงในการยืนหยัดรัา ปกป้องสถาบันหลักของชาติ ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้อยู่อย่างมั่นคงได้ในอนาคต” นายชื่นชอบ กล่าว

นายชื่นชอบ กล่าวว่า สำหรับพรรคพทท. ยังคงเดินหน้าต่อไป ตามแนวทางและนโยบายที่ได้ประกาศไว้คือการกระจายอำนาจ และคงจับมือกับพรรคพปชร.เหมือนเดิม ยังไม่มีการควบรวม หรือยุบมารวมกัน ตอนนี้บิดายังคงเดินหน้าพรรคต่อไป ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนจะตัดสินใจมาทำงานกับพรรคพปชร.ด้วยหรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต

เมื่อถามว่า เป็นการเข้าไปเสริมทัพในฟากของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อคานอำนาจกับขั้วของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร.หรือไม่ นายชื่นชอบ กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน เพราะทั้งนายพีระพันธ์และตน ทำงานให้พรรค อย่างที่นายพีระพันธ์เคยระบุว่า พล.อ.ประวิตรชวนเข้าพรรคนานแล้ว แต่ติดเงื่อนไขทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาปัญหาหลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 60 สภาผู้แทนราษฎร และผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทการบินไทยจำกัด(มหาชน) รวมถึงสถานการณ์โควิด แต่เมื่อถึงเวลา และไม่ติดเงื่อนไขใด ก็เข้าร่วมงานกับพปชร.ในเวลาที่เหมาะสม เบื้องต้นได้รับการประสานให้เข้ามาดูแลงานด้านกฎหมาย และโครงสร้างต่างๆ ภายในพรรคร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆ มั่นใจว่าไม่มีปัญหา เพราะส่วนใหญ่เป็นคนเคยทำงานมาด้วยกัน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอดีตส.ส. นักการเมือง ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพปชร. พร้อมกับนายพีระพันธุ์ นอกเหนือจากนายชื่นชอบแล้ว ยังมีอีก 3-4 คน