กรมประมงวางกรอบแก้ปม ‘มาเฟียหอยแครง’

วันนี้ ( 16 มิ.ย. 63 )จากปัญหามาเฟียลูกหอยแครง ที่อ่าวบ้านดอน สุราษฎร์ธานี กรมประมงออกมาเผยข้อมูลว่า 3 ปีที่ผ่านมา ที่อ่าวนี้มีลูกหอยเกิดใหม่มากกว่าที่ผ่านมา และกรมประมงวาง 3 แนวทางจัดการหอยแครงเพื่อความยั่งยืน

นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงได้วางแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรหอยแครงเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ อย่างยั่งยืน 3 ข้อ คือ 1. บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนในพื้นที่ ร่วมกันบังคับใช้กฎหมายในการจัดการแปลงหอยที่รุกล้ำพื้นที่สาธารณะให้เป็นพื้นที่ทำการประมงของชาวประมง 

2. ใช้กลไกของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด เพื่อบริหารจัดการพื้นที่ที่เหมาะสมกับการเลี้ยงหอยทะเล พร้อมประกาศให้เป็นเขตพื้นที่อนุญาตเลี้ยงหอยตามขั้นตอนต่อไป โดยการให้สิทธิกับชาวประมงพื้นบ้านในการรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร หรือองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นด้านการเพาะเลี้ยงเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรร่วมกัน 

3. กำหนดพื้นที่บางส่วนเป็นที่รักษาพันธุ์สัตว์น้ำห้ามทำการประมงอย่างถาวร โดยประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำ ตามมาตรา 56 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และฉบับแก้ไข พ.ศ. 2560 เพื่อเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์หอยแครง 

โดยมีข้อมูลว่า รอบ 3 ปีที่ผ่านมามีลูกหอยเกิดใหม่จำนวนมากขึ้นพื้นที่ชายฝั่งทะเลของอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะเขตอำเภอเมือง และอำเภอพุนพิน ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่สาธารณะของอ่าวบ้านดอนได้อย่างเท่าเทียม บนพื้นฐานของความถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อร่วมกันสร้างผลผลิตให้ทรัพยากรหอยแครงคงความอุดมสมบูรณ์ตลอดไป

ทั้งนี้ ภายหลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกาศให้ รื้อถอนคอกหอยและส่ งปลูกสร้างต่างๆ กลางอ่าวบ้านดอน ภายใน 60 วัน ล่าสุด ยังไม่พบว่ามีการรื้อถอนใดๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่การท่าภูมิภาค เข้าตรวจสอบและจับพิกัดทางทะเล พบขนำอีก 5 หลังที่บุกรุกพื้นที่ จึงนำหลักฐานเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน 

ส่วนการที่ทัพเรือภาค 2 ส่งเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง เรือ ต.272 ร่วมรักษาการณ์ในอ่าวบ้านดอน ไม่พบเรือประมงพื้นบ้านออกมาเก็บหอย พบเพียงเรือประมงหางยาวจำนวน 3 ลำ มีชาวบ้านรวม 15 คนออกมาจับปลา 

โดยทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ได้กำหนดแผนการดำเนินการออกเป็น 3 เฟส เฟสแรกจะดำเนินการรังวัดรื้อถอนในเขต อำเภอพุนพิน อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เฟสที่ 2 จะดำเนินการในส่วนของอำเภอกาญจนดิษฐ์ และ เฟสที่ 3 จะดำเนินการในอำเภอท่าฉางและ อำเภอไชยา ทั้ง 5 อำเภอมีขนำอยู่กว่า 800 หลัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2564