อิสราเอลพบเชื้อกลายพันธุ์ย่อยของเชื้อเดลต้า

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลยืนยันพบเชื้อกลายพันธุ์ย่อยของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าเป็นครั้งแรกในอิสราเอล หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีรายงานพบในหลายประเทศของยุโรป โดยในแถลงการณ์ระบุว่า “เชื้อกลายพันธุ์ เอวาย 4.2 ที่พบในหลายประเทศในแถบยุโรป ตอนนี้พบในอิสราเอลแล้ว โดยผู้ที่นำเชื้อนี้เข้าอิสราเอลเป็นคนแรกคือ เด็กชายวัย 11 ปีที่มาจากยุโรป ที่มีการตรวจพบเชื้อที่ท่าอากาศยานนานาชาติ เบนกูเรียน ในกรุงเทลอาวีฟ ขณะนี้เด็กชายถูกกักตัวอยู่และยังไม่พบผู้ติดเชื้อรายอื่น”

ทั้งนี้เชื้อกลายพันธุ์เอวาย 4.2 มีการตรวจพบในการจำแนกพันธุกรรมหลายครั้งในอังกฤษ ด้านนายฟรองซัวส์ บัลลูซ์ ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาเชิงคำนวณจากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน (ยูซีแอล) กล่าวกับเอเอฟพีว่า เชื้อกลายพันธุ์ย่อยนี้พบได้ยากและไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อเหมือนกันสายพันธุ์อื่นๆ

โดยเชื้อดังกล่าวถูกพบในอิสราเอล ขณะที่รัฐบาลกำลังผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางหลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง

รายงานของบีบีซี ระบุว่า เชื้อกลายพันธุ์ย่อยเดลต้า ซึ่งถูกเรียกว่า เอวาย 4.2 ถูกตรวจพบระบาดกลุ่มเล็กๆ ใน สหรัฐอเมริกา และเดนมาร์ก ก่อนหน้านี้ และจากการจำแนกพันธุกรรมในอังกฤษ พบว่า มีการกลายพันธุ์สำคัญในส่วนของสไปค์ โปรตีน 2 จุด คือ เอ222วี และ วาย145เอช โดยตรวจพบคิดเป็นสัดส่วนราว 6 เปอร์เซ็นต์ของเชื้อทั้งหมดทุกตัวในอังกฤษ ซึ่งแสดงให้เห็นแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น

ศาสตราจารย์ บัลลูซ์ ตั้งข้อสังเกตว่า แนวโน้มการเพิ่มของ เอวาย4.2 ในอังกฤษ ยังไม่เปลี่ยนแปลงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นดังกล่าวไม่จำกัดอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เอวาย4.2 มีธรรมชาติที่สามารถแพร่ระบาดได้สูงกว่าเดิม โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการเคลื่อนไหวของบุคคลเป็นพาหะแพร่เชื้อ และตั้งข้อสังเกตว่า แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของเชื้อกลายพันธุ์ย่อยนี้มีนัยสำคัญอยู่ในตัว เนื่องจากเป็นการเพิ่มขึ้นในขณะที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลต้า ที่ได้ชื่อว่าแพร่ระบาดได้เร็วที่สุดอยู่ในเวลานี้อีกด้วย