รีเซต

อนุทิน ปัดตอบนั่งแคนดิเดตนายก เผย  ระดมฉีดวัคซีนนร.แล้ว 3.8 ล้านคน

อนุทิน ปัดตอบนั่งแคนดิเดตนายก เผย  ระดมฉีดวัคซีนนร.แล้ว 3.8 ล้านคน
มติชน
6 ตุลาคม 2564 ( 10:43 )
39

อนุทิน ปัดตอบนั่งแคนดิเดตนายก เผย  ระดมฉีดวัคซีนนร.แล้ว 3.8 ล้านคน ลั่นสิ้นปีไฟเซอร์ส่งไทยครบ 30 ล้านโดส

 

 

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับนักเรียนอายุ 12 – 18 ปี ว่า สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ที่นำมาฉีดให้เด็กนักเรียน รัฐบาลยืนยันว่ามีความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) รับรองให้ใช้ในกลุ่มผู้อายุ 12 ปีขึ้นไป โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยนักเรียน จึงเร่งให้รัฐบาลจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์มาฉีดให้กับทุกคน ราว 4-5 ล้านคน ต้องฉีดให้ครบภายใน 1 เดือน เพื่อรองรับการเปิดเทอมในเดือน พ.ย. ให้เราได้เปิดเทอมใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งหลังจากฉีดครบ 2 เข็มแล้วอีก 2-3 สัปดาห์ ภูมิคุ้มกันก็จะขึ้นเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ผู้รับ จึงต้องย้ำในเรื่องการป้องกันส่วนบุคคล ยังต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและล้างมืออยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ วันนี้มีเด็กนักเรียนชั้น ม.1-6 จาก รร.สุรศักดิ์มนตรี มีนักเรียนทั้งหมด 2,929 คน แจ้งความประสงค์ฉีด 2,505 คนซึ่งจะฉีดให้หมดในวันเดียว

 

 

 

 

นายอนุทิน กล่าวว่า เด็กในกลุ่มเป้าหมายอายุ 12-18 ปี ขณะนี้สมัครใจฉีดแล้ว 3.8 ล้านคน โดยจำนวนที่เหลือจะไม่เสียสิทธิแต่อย่างใด ทั้งนี้จะต้องเร่งทำความเข้าใจทางหลักวิชาการให้กับผู้ปกครอง เพื่อให้อนุญาตเด็กๆ มารับวัคซีนโควิด หากเปลี่ยนใจต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม สามารถแจ้งความประสงค์เข้ามาได้ และไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเราจัดให้มีการฉีดที่โรงเรียน เพื่ออำนวยความสะดวกให้เด็กนักเรียน และผู้ปกครอง หลังจากฉีดก็จะมีระบบการสังเกตอาการ 30 นาที จากการฉีดวัคซีนในเด็กเริ่มตั้งแต่ 4 ต.ค. ขณะนี้ยังไม่มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์ที่น่ากังวลใจ ที่พบมาก อาทิ ไข้ ตัวร้อน อ่อนเพลีย จึงขอเน้นย้ำว่าทุกคนที่ได้รับวัคซีนจะต้องพักผ่อน ดื่มน้ำให้เยอะ อาการเหล่านี้ก็จะหายเป็นปกติได้

 

 

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า วันนี้มีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส ภายหลังการตรวจสอบคุณภาพแล้วก็จะกระจายวัคซีนไปยังพื้นที่ทันที และสัปดาห์หน้าวันที่ 13 ต.ค.64 ก็จะมีเข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส และตลอดเดือนนี้ก็จะเข้ามาจนครบ 8 ล้านโดส ดังนั้น มีวัคซีนเพื่อฉีดให้เด็กทุกคนอย่างเพียงพอแน่นอน โดยหลังจากนี้วัคซีนไฟเซฮร์ จะทยอยส่งมาถึงไทยอีกสัปดาห์ละ 1.5-2 ล้านโดส ไปจนถึงสิ้นปีจนครบ 30 ล้านโดสที่เราสั่งซื้อไว้ นอกจากนั้น รัฐบาลก็ได้จัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่น เข้ามาเพิ่มเติมให้ครอบคลุมประชากรทั้งเข็ม 1 ไปจนถึงเข็ม 3 และครอบคลุมไปจนถึงปีหน้าด้วย

 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็น 1 ในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวสั้นๆ และหัวเราะว่า “ห๊ะ วันนี้มาฉีดวัคซีน ไปแล้ว”

ขณะที่ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ระบุสั้นๆ ว่า ตั้งแต่เริ่มคิปออฟ 4 ต.ค. ได้ฉีดเด็กแล้วประมาณ 4 หมื่นกว่าคน

 

 

ด้าน น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า การฉีดวัคซีนช่วยลดเสี่ยงรับเชื้อ แต่สำคัญคือมาตรการป้องกันตัว เว้นระยะห่าง ใส่แมสก์ ซึ่งการเปิดเรียนนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. จะประเมินมาตรการของ ร.ร.อยู่ในมาตรฐานเปิดเรียนได้หรือไม่ ซึ่งการเปิดเรียนต้องอยู่ภายใต้นิวนอร์มัล อย่างโรงเรียนในสังกัด ศธ.มีหลายขนาด 3 หมื่นกว่าโรง ดูตามบริบทพื้นที่ อย่าง ร.ร.สุรศักดิ์มนตรีมีนักเรียนมากกว่า 2 พันกว่าคน อาจจะสลับกันมาเรียน ตรงนี้ให้พื้นที่พิจารณาร่วมกัน ส่วนเด็กประถมที่ยังไม้ได้ฉีดวัคซีนก็ ใช้มาตรการสาธารณสุขป้องกันโรค สำหรับแผนเผชิญเหตุหากพบการติดเชื้อมีการจัดทำร่วมกับ สธ.ว่าจะดำเนินการอย่างไร

 

 

น.ส.ตรีนุชกล่าวอีกว่า ส่วนผู้ปกครองมีความประสงค์ให้บุตรหลานฉีดวัคซีนมีเพิ่มขึ้นกว่าแสนราย จากที่แจ้งความประสงค์จาก 71% เพิ่มมาเป็น 80% ทั่วประเทศ จาก 5 ล้านคน สำหรับการฉีดให้ฉีดที้โรงเรียนเพราะต้องการให้ลดการเดินทาง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง