นายกฯ อังกฤษรั้งเก้าอี้แน่น ชี้ สิ่งที่ประเทศต้องการคือการเลือกตั้ง

---ปฏิเสธลาออกจากตำแหน่ง ปลดรัฐมนตรีคนสำคัญ---

The Straits Times รายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร พยายามอยู่ในอำนาจต่ออย่างสิ้นหวัง หลังจากเมื่อเร็ว ๆ นี้ ประสบปัญหาการลาออกของคณะรัฐบาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของการเมืองอังกฤษ ขณะที่สมาชิกคณะรัฐมนตรีจำนวนหนึ่งส่งสัญญาณกดดันให้เขาลาออกจากตำแหน่ง

ล่าสุด มีรายงานว่าจอห์นสันปฏิเสธที่จะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ชี้ว่า เขามี ‘ความชอบธรรม’ จากการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อปลายปี 2019 ที่ตัวเขาสร้างประวัติศาสตร์ นำพรรคอนุรักษนิยมชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนถล่มทลายมากที่สุดในรอบ 20 ปี และครองเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดพรรคเดียวในสภาสามัญ 

พร้อมชี้ว่าท่ามกลางวิกฤติทั้งภายในและภายนอก ทั้งปัญหาเศรษฐกิจและสงครามในยูเครน ‘สหราชอาณาจักรไม่ควรเปลี่ยนม้ากลางศึก’

อย่างไรก็ตาม จอห์นสันปฏิเสธตอบคำถามว่า จะยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ หากคณะกรรมการบริหารพรรคอนุรักษนิยมเปลี่ยนกฎ ให้มีการกลับมาลงมติไว้วางใจหัวหน้าพรรคได้ซ้ำ โดยไม่ต้องทิ้งช่วง 1 ปี ตามระเบียบปัจจุบัน

นอกจากจะไม่ลาออกแล้วผู้นำอังกฤษยังสั่งปลด ไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีกระทรวงเคหะและชุมชน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกอาวุโสของคณะรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งด้วย

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งระบุว่านี่เป็นการแก้แค้นสำหรับความพยายามที่จะถอดถอนจอห์นสันออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและการทรยศหักหลังในอดีต

---รัฐมนตรีพร้อมใจลาออกกดดัน---

เก้าอี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษของนาย บอริส จอห์นสัน สั่นคลอน เมื่อ ริชิ ซูนัก รัฐมนตรีคลัง และ ซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุข พร้อมใจกันยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อบทบาทการเป็นผู้นำของนายจอห์นสัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (5 กรกฎาคม) 

การลาออกของสองรัฐมนตรี สร้างความยากลำบากทางเมือง แก่นายจอห์นสัน และตามมาด้วยการลาออกของรัฐมนตรีและผู้ช่วย รวมแล้ว 41 คน

หลายสำนักข่าวใหญ่ของอังกฤษ ต่างวิเคราะห์ว่า นี่คือช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผู้นำ โดยสำนักข่าว The Times ของสหราชอาณาจักร ขึ้นพาดหัวข่าวตัวโตว่า ถึงเวลา ‘จุดจบ’ ของจอห์นสัน และนี่คือ ‘ความผิดพลาด’ สำหรับนายกฯคนนี้ ที่ยังคงยึดติดอยู่กับอำนาจของตัวเอง เพราะ ‘เขาได้สูญเสียความเชื่อมั่นทั้งจากในพรรคการเมืองของตัวเอง และจากคนทั้งประเทศไปแล้ว’

---ย้อนรอยจัดปาร์ตี้ฝืนมาตรการโควิด---

เสถียรภาพของรัฐบาลอังกฤษได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และการแต่งตั้งบุคคลทำหน้าที่ด้านกฎระเบียบและสวัสดิการของพรรค ทั้ง ๆ ที่บุคคลดังกล่าวโดนร้องเรียนเกี่ยวกับการประพฤติผิดทางเพศ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่นายกฯ จอห์นสันต้องออกมาขอโทษ

ความไม่พึงพอใจในตัวของจอห์นสันมีมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังมีการเปิดโปงกรณีสุดอื้อฉาวว่า มีการจัดงานเลี้ยงวันเกิดของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 โดยมีผู้เข้าร่วมงานถึง 30 คน และมีการร้องเพลงอวยพรวันเกิด ตลอดจนการเสิร์ฟขนมเค้กให้ผู้ร่วมงานรับประทานด้วย

ขณะนั้น รัฐบาลอังกฤษบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด โดยห้ามการรวมตัวพบปะภายในอาคารเกิน 2 คน แต่สามารถรวมตัวกันภายนอกอาคารได้ถึง 6 คน แต่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ได้ ‘รวมตัวกันเป็นเวลาสั้น ๆ’ เพื่ออวยพรวันเกิดให้นายกรัฐมนตรี โดยชี้ว่า นายจอห์นสัน อยู่ร่วมงาน ‘ไม่ถึง 10 นาที’

---จับตานายกฯจะรักษาเก้าอี้จนถึงเลือกตั้งครั้งใหม่ได้หรือไม่---

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่ประชุมสมาชิกสภาสามัญพรรคอนุรักษนิยม มีมติเสียงข้างมาก 211 เสียง ยังคงให้ความไว้วางใจจอห์นสัน แต่สมาชิก 148 คน ไม่สนับสนุน ถือว่ามีสัดส่วนสูงเกือบครึ่ง 

ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับจอห์นสัน ว่าจะสามารถประสานรอยร้าวภายในพรรคจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ในปี 2025 ได้หรือไม่

ด้านเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ ผู้นำฝ่ายค้านจากพรรคแรงงาน ระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้บ่งชี้ชัดเจนว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่รอดแล้ว ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนรอบล่าสุดของศูนย์วิจัย Yougov ชี้ว่า 69% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ต้องการให้จอห์นสันลาออก 

—————

แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ 

ภาพ: Reuters