ไข้หวัดใหญ่ยังพุ่ง สะสมกว่า 1.8 แสนคน
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่ 1 มกราคม – 19 กันยายน 2566 มีรายงานผู้ป่วยกว่า 185,000 คน เสียชีวิต 4 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็กจนถึงเด็กวัยเรียน กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด ได้แก่ อายุ 10-14 ปี พบร้อยกว่าร้อยละ 18 รองลงมา เด็กแรกเกิด – 4 ปี ร้อยละ 17 และอายุ 7-9 ปี ร้อยละ 14
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถป้องกันตนเองไม่ให้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ได้ โดยการล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หากจำเป็นต้องเข้าไปและสงสัยว่าป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ควรสวมหน้ากากอนามัย เนื่องจากระยะนี้เป็นการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล สำหรับอาการจะมีไข้สูง ไอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และเจ็บคอ ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย ได้แก่ หลอดลมอักเสบและปอดอักเสบ ในกลุ่มเด็กอาจพบอาการระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง บางรายสามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยรักษาทันที
นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ยังคงมีความจำเป็นในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีทุกคน ผู้มีโรคเรื้อรัง ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้เป็นโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคอ้วน และผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐและสถานพยาบาลเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติใกล้บ้าน