รีเซต

รวบแล้วมือฆ่า หนุ่มโพธิ์ทอง ถือปืนไม่ยอมจำนน โดนยิงใส่ขาสิ้นฤทธิ์

รวบแล้วมือฆ่า หนุ่มโพธิ์ทอง ถือปืนไม่ยอมจำนน โดนยิงใส่ขาสิ้นฤทธิ์
ข่าวสด
20 พฤษภาคม 2564 ( 16:50 )
294

ตำรวจเข้าจับกุม 2 ผู้ต้องหา ร่วมกันฆ่า หมกศพใต้ตอม่อสะพาน หน้าวัดสามประชุม หนีหัวซุกหัวซุนร่วมเดือน ถือปืนไม่ยอมจำนน ถูกยิงใส่ขาสิ้นฤทธิ์

 

 

จากกรณีนายวัชระ โพธิ์เสือ หรือระ อายุ 44 ปี ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตอยู่บริเวณใต้ตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำ หน้าวัดสามประชุม ม.3 ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โดยแม่ของผู้ตายระบุว่า ลูกชายเพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าคนตาย คืนเกิดเหตุมีคนโทรศัพท์ตามลูกชายออกไป ก่อนพบว่าถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 64 ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 64 ที่สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พร้อมด้วยพ.ต.อ.ประเสริฐ หนูดี ผกก.สภ.โพธิ์ทอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 และชุดสืบสวนสภ.โพธิ์ทอง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายกีรติ มีพร้อม หรือกล้า อายุ 31 ปี และนายอภิชาต ปรางโห้ หรือแชมป์ อายุ 31 ปี

 

พร้อมของกลางรถจยย. ฮอนด้า เวฟ สีเขียว ทะเบียน ฬงษ 691 กรุงเทพมหานคร อาวุธปืนออโตเมติก บราวนิ่ง ขนาด 9 มม. 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. 17 นัด

 

 

สืบเนื่องจากหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาข้อมูลและพยานหลักฐาน จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายนายกีรติ นายอภิชาต จึงทำการยื่นคำร้องต่อศาลจ.อ่างทอง ขออนุมัติหมายจับ ในความผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา"

 

 

ต่อมาวันที่ 18 พ.ค. 64 ตำรวจสืบทราบว่านายกีรติ หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี จึงได้ประสานตำรวจพื้นที่เข้าจับกุมได้บริเวณเพิงพักกลางทุ่งนา แต่นายกีรติ ต่อสู้ขัดขวาง ตำรวจจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่บริเวณขาได้รับบาดเจ็บ

 

จากการตรวจสอบพบของกลางอาวุธปืน ขนาด.38 บรรจุอยู่ในลูกโม่ของปืน 6 นัด และในกระเป๋าสะพายอีก 9 นัด จึงตรวจยึดไว้พร้อมนำนายกีรติ ไปรักษาตัวที่รพ.อ่างทอง และในวันเดียวกัน ได้เข้าจับกุมนายอภิชาต ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.1 ต.สายทอง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นคนพานายกีรติ หลบหนี

 

 

จากการสอบสวนทราบว่า มาจากความขัดแย้งส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง ระหว่างผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ จนเป็นเหตุให้เคยมีปากเสียงทะเลาะกัน โดยหลังแถลงข่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง