เอกชน 3สถาบัน เรียกร้องรัฐออก 'คนละครึ่งเฟส 4 - ลดน้ำไฟ' ของขวัญปีใหม่ปชช.
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงของขวัญปีใหม่ปี 2565 ว่า ภาคเอกชนอยากให้ภาครัฐออกมาตรการคนละครึ่งเฟส4 ด้วยการให้เงินประชาชนอีก 1,500 บาทและรัฐออกให้ 1,500 บาท เพื่อใช้จ่ายเดือนมกราคมนี้ เนื่องจากคนละครึ่งเฟส 3 จะสิ้นสุดมาตรการเดือนธันวาคมนี้ รวมทั้งฟื้นมาตรการช็อปดีมีคืนกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากทั้งสองมาตรการได้รับความนิยม กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยประชาชนได้จริง ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ทั้งนี้หากภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรออกมา อยากให้โดนใจประชาชน ควรเรียกภาคเอกชนร่วมหารือเพื่อร่วมออกแบบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเอกชนรู้ความต้องการผู้บริโภค อย่างเรื่องช็อปดีมีคืน อยากให้ฟื้นกลับมาเร็วๆ เพราะเห็นผลจริง ต่างจากมาตรการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่ไม่ประสบผลสำเร็จ และตอนนี้จากกรอบเงินกู้ 5 แสนล้านบาท ภาครัฐยังเหลืออีกกว่า 2 แสนล้านบาทในการดูแลเศรษฐกิจ และผลจากการขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ของจีดีพี ทำให้รัฐมีความสามารถในการหาเครื่องมือมาฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อีก
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ของขวัญที่อยากได้จากรัฐบาล คือ การลดค่าครองชีพผู้บริโภค รวมทั้งต้นทุนผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ออกไปอีก 3 เดือน(ธันวาคม2564-กุมภาพันธ์2565) เนื่องจากเป็นมาตรการที่แบ่งเบาภาระค่าครองชีพทุกคนได้อย่างเท่าเทียมกัน
ขณะที่นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับหอการค้าและส.อ.ท. คือ อยากได้ของขวัญจากรัฐบาลที่เกี่ยวกับกับมาตรการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้กับประชาชน อาทิ ขยายมาตรการคนละครึ่งออกไปอีก มาตรการข็อปดีมีคืน ลดค่าน้ำ ค่าไฟ