'ทรีนีตี้ ' ส่อง Q2/65 หุ้น BJC เคาะพื้นฐาน 39.80 บาท
บล.ทรีนีตี้ จำกัด ส่องหุ้น บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC คาดกำไรไตรมาส 2/2565 ทรงตัวแม้รายได้จากการขายจะเพิ่ม แต่มองว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจะกดดัน Gross Margin และ Net Margin
ด้านผู้บริหารมองว่ายอดขาย sssg ดีขึ้นใน Q2/65 ในขณะที่ CAPEX ทั้งปีลดลงเหลือ 10,000 – 11,000 ล้านบาท จากการลดแผนการเปิดสาขาใหม่ใน 2H65 และมองว่าการเติบโตของขาดขายทั้งปีจะอยู่ในระดับต่ำถึงกลาง โดยผู้บริหารมีมุมมองค่อนข้าง conservative
โดยในปี 2565 ผู้บริหารได้ให้ความสำคับกับการบริหาร supply chain โดยเฉพาะธุรกิจบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการบริหารต้นทุนในทุกธุรกิจและจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ Private Label
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองว่ายอดขายธุรกิจค้าปลีกดีขึ้น เนื่องจากการเปิดเรียน รวมถึงการกลับมาทำงานที่ออฟฟิศของพนักงาน หลังจากที่ work from home มานานเนื่องจากสถาณการณ์ โควิด 19 รวมถึงการเติบโตของสินค้า Private Label ที่ผู้บริหารจะผลักดันในปี 2565 (ในไตรมาส 1/2565 สัดส่วน private label เพิ่มมาเป็น 14.9% จาก 10% ของยอดขายธุกิจค้าปลีก)
ส่วนเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของค่าเงินบาท คาดกระทบต้นทุนค่าใช่จ่ายทางด้านพลังงานและวัตถุดิบ โดยเฉพาะธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และธุรกิจอุปโภคบริโภค
โดยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 บริษัทได้มีการจ่ายปันผลจากผลกำไรดำเนินงานของบริษัทประจำปี 2564 ในอัตตราหุ้นละ 0.51 บาทต่อหุ้น
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 39.80 บาท (วิธี DCF ใช้ WACC 6.3%, TG 2.5%) ณ ราคาปัจจุบันมี Upside ราว 22.5% ระดับ Forward PE 35.1เท่า ประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ราว 4,378 ล้านบาท (+22.1%YoY) เนื่องจากจะมีการขยายสาขาเพิ่มใน 2H65 ประมาณ 150 สาขา (เป็น Hypermarket 1-2 สาขา, Food place 5 สาขา, Big C mini 100สาขา, Big C Cambodia 50 สาขา, Pure 7 สาขา และ Siripharma 2 สาขา)