คาราบาวปั้น5หมื่นโชวห่วย 'ร้านถูกดีมีมาตรฐาน' ร่วมลงทุนดันยอดขาย2หมื่นบ./วัน
‘เสถียร’ปธ.คาราบาวกรุ๊ป เตรียมขยายธุรกิจค้าปลีก ร้านถูกดีมีมาตรฐานปีหน้า1พันสาขา วาดเป้า5ปีแตะ5หมื่นสาขา ร่วมลงทุนร้านค้าได้85% กำหนดยอดขาย1.5-2หมื่นบ. เลือกร้านยอดขาย3พันบ./วันขึ้นไป เร่งขยายซีเจ เอ็กซ์เพรส-ซูปเปอร์มาเก็ต เพิ่มกำลังผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง หวังผงาดเบอร์1ของประเทศ
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้มีแผนการขยายธุรกิจค้าปลีกภายใต้บริษัททีดี ตะวันแดง จำกัด ชื่อร้านถูกดีมีมาตรฐาน เป็นธุรกิจที่เชิญชวนในร้านชำ โชวห่วย ในพื้นที่ชุมชนเข้าร่วมเพื่อใช้ฐานลูกค้าของร้านที่มีอยู่แล้ว โดยบริษัททีดี ตะวันแดง จะลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของร้าน สินค้าและเทคโนโลยีระบบบริหารจัดการร้าน ทั้งการจัดการสต็อกสินค้าและบัญชี ทดลองเริ่มธุรกิจเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีจำนวน 200 สาขาทั่วประเทศ ที่กระจายอยู่ในทุกจังหวัดยกเว้นในกรุงเทพมหานคร
นายเสถียร กล่าวว่า เป้าหมายการขยายสาขา ร้านถูกดีมีมาตรฐาน ไตรมาสแรกของปี 2564 อยู่ที่ 1,000 สาขา ภายในสิ้นปี 2564 เพิ่มเป็น 5,000 สาขา และภายใน 5 ปีจะขยายให้ได้ 50,000 สาขา ส่วนการเชิญชวนร้านชำ โชวห่วยและเป็นการรับสมัครทางออนไลน์ และคัดเลือกร้านเหมาะสม อาทิ มีหน้าร้านมีสินค้า ทำเลอยู่ในแหล่งชุมชน มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว มียอดขายประมาณ 3,000 บาทต่อวัน หรือเป็นร้านที่เข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งการลงทุนครั้งนี้มีเป้าหมายเพิ่มรายได้ให้ร้านชำ และโชวห่วยที่เข้าร่วมธุรกิจภายใต้ชื่อร้านถูกดีมีมาตรฐาน มีรายได้เบื้องต้น 15,000 บาทต่อวัน และเพิ่มเป็น 20,000 บาทต่อวัน การแบ่งรายได้ ทางบริษัทจะขอ 15% เจ้าของร้านได้ 85%
นายเสถียร กล่าวว่า การลงทุนร้านถูกดีมีมาตรฐาน ใช้เงินลงทุน 6 – 8 แสนบาทต่อร้านค้า ขนาดร้านค้า 50 – 150 ตารางเมตร ใช้พื้นที่ร้านเดิมของร้านชำ โชวห่วยที่เข้าร่วมทำธุรกิจ สินค้าที่ขายในร้านมาจากร้านซีเจ เป็นสินค้าพื้นฐานจำนวน 200 รายการ เน้นสินค้าใช้แล้วหมดไปในทันที หรือสินค้าใช้งานไม่เกิน 1 เดือน รวมทั้งสินค้าประเภทที่อยู่ในตู้แช่ สร้างรายได้ 30% ต่อวันให้ร้านค้า มีกลยุทธ์ในการจัดโปรโมชันดึงดูดลูกค้าให้มากขึ้น ส่วนร้านที่เข้าร่วมจะถูกยกเลิกสัญญาเมื่อมียอดขายไม่ถึง 10,000 บาทต่อวัน
นายเสถียร กล่าวว่า ส่วนธุรกิจค้าปลีกร้าน ซีเจ เอ็กซ์เพรส และซีเจ ซูปเปอร์มาเก็ต ปัจจุบันมี 540 สาขา กระจายในภาคกลาง ล่าสุดขยายไปจ.นครราชสีมา และจ.ชุมพรอีกเล็กน้อย ภายในสิ้นปี 2564 จะเป็น 580 สาขา ร้าน ซีเจ เอ็กซ์เพรส และซีเจ ซูปเปอร์มาเก็ต สร้างรายได้ 17,000 ล้านบาท กำไร 900 ล้านบาท
นายเสถียร กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีเหล้าข้าวหอมและเหล้ายี่ห้อแกแลกซี่ ปีหน้ามีแผนการขยายเครื่องประเภทนี้ อาทิ เหล้าวิสกี้ เหล้าโซจู และเหล้าบ๊วย ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง คาราบาวแดง มียอดขายเป็นอันดับสองของประเทศไทย และมียอดขายเป็นอันดับ 1 อาเซียน ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คาราบาวกรุ๊ปมีเป้าหมายครองอันดับ 1 ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของประเทศไทย จึงขยายกำลังการผลิตอีก 1 เครื่องจักร ทำให้ผลิตเพิ่มได้ 300 ล้านขวดและกระป๋องต่อปี จากเดิมผลิตได้ 1,200-1,300 ล้านกระป๋องต่อปี เพิ่มเป็น 1,500-1,600 ล้านกระป๋องต่อปี และจาก 900 ขวดต่อปี เพิ่มเป็น 1,200 ขวดต่อปี นอกจากนี้การขายเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงในจีน ปัจจุบันมียอดขาย 300 ล้านกระป๋อง และกำลังมีแผนการตีตลาดในจีนด้วย