กองทัพเรือไทยรับมอบปืนใหญ่สนาม 155 มม. ATMG เสริมเขี้ยวเล็บนาวิกโยธิน

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 น. พลเรือตรี ทวี วงศ์วาน รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เข้าร่วมพิธีรับมอบปืนใหญ่สนามขนาด 155 มม. แบบอัตตาจรล้อยาง (ATMG) ณ กองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
โดยมีผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้รับมอบจาก พลโท ประจักรา วิไลเนตร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้แทนศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ก่อนจะส่งมอบต่อให้กับหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินเพื่อประจำการใช้งานต่อไป ทั้งนี้ พลเรือตรี ณรงค์ วงษ์ประเสริฐ เสนาธิการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พร้อมผู้บังคับบัญชา หน่วยขึ้นตรง และกำลังพลในสังกัด ร่วมเป็นเกียรติในพิธี
โครงการจัดหาปืนใหญ่สนาม ATMG ขนาด 155 มม. ดำเนินการตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือด้านการวิจัยและพัฒนา มุ่งเน้นการต่อยอดองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านยุทโธปกรณ์ให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งานจริงของกองทัพเรือ อีกทั้งยังช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ สนับสนุนการพึ่งพาตนเองด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในเชิงพาณิชย์
การจัดหาปืนใหญ่ ATMG ครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพเรือให้มีระบบอาวุธทันสมัย โดยบางส่วนของอุปกรณ์สามารถผลิตได้ในประเทศผ่านศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่กำลังพล เพื่อเสริมสร้างความรู้ความชำนาญในระบบอาวุธยุคใหม่ อันจะนำไปสู่ความมั่นคงของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศไทยในระยะยาว และเปิดโอกาสให้ประเทศไทยพัฒนาและผลิตยุทโธปกรณ์ได้ด้วยตนเองในอนาคต
ปืนใหญ่สนามอัตตาจรล้อยาง (ATMG) ขนาด 155 มม.
ปืนใหญ่สนามอัตตาจรล้อยาง (ATMG) ขนาด 155 มม. เป็นปืนใหญ่สนามมาตรฐาน NATO รุ่นใหม่ที่ติดตั้งบนรถบรรทุก 8x8 ช่วยให้มีความคล่องตัวสูง เคลื่อนย้ายรวดเร็ว และสามารถปฏิบัติการได้ทั้งบนถนนและในพื้นที่ทุรกันดาร ระบบยิงอัตโนมัติรองรับการบรรจุกระสุนได้รวดเร็ว ลดเวลาในการเตรียมยิงจากนาทีเหลือเพียงไม่กี่สิบวินาที ระยะยิงครอบคลุม 30-40 กิโลเมตร และสามารถขยายได้มากกว่า 50 กิโลเมตร เมื่อใช้กระสุนพิเศษ
นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบควบคุมการยิงดิจิทัลที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายบัญชาการ ทำให้ยิงสนับสนุนเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ จุดเด่นอีกด้านคือความปลอดภัยและความสะดวกในการปฏิบัติการ กำลังพลเพียง 4-5 นายก็สามารถควบคุมและปฏิบัติการได้เต็มรูปแบบ ทั้งการเคลื่อนที่ ยิง และเปลี่ยนที่ตั้งในเวลาอันสั้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกตอบโต้ ระบบยังออกแบบให้บำรุงรักษาง่าย ใช้อะไหล่ร่วมกับอุตสาหกรรมในประเทศได้บางส่วน ส่งผลให้กองทัพสามารถพึ่งพาตนเองมากขึ้น ถือเป็นการผสมผสานความทันสมัย ความคล่องตัว และความแม่นยำ ที่ช่วยยกระดับศักยภาพการยิงสนับสนุนของกองทัพเรือไทยในยุคใหม่อย่างแท้จริง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
