วิจัยพบโควิด-19 ทำเด็กในสหรัฐฯ กำพร้ากว่า 1.2 แสนคน
วอชิงตัน, 8 ต.ค. (ซินหัว) -- สหรัฐฯ พบเด็ก 120,630 คน ต้องสูญเสียผู้ดูแลหลักอย่างพ่อแม่หรือปู่ย่าตายาย ซึ่งรับผิดชอบเรื่องที่อยู่อาศัย ความต้องการ และการดูแลขั้นพื้นฐาน เนื่องด้วยการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยผลการศึกษาในวารสารกุมารเวชศาสตร์ (Pediatrics) เมื่อวันพฤหัสบดี (7 ต.ค.) ระบุว่าสหรัฐฯ ยังพบเด็กอีก 22,007 คน ที่สูญเสียผู้ดูแลรองหรือปู่ย่าตายาย ซึ่งรับผิดชอบเรื่องที่อยู่อาศัยแต่ไม่ได้ตอบสนองความต้องการพื้นฐานส่วนใหญ่ ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 2020 ถึง 30 มิ.ย. 2021
ซูซาน ฮิลลิส นักวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ และผู้นำการศึกษา กล่าวว่าการกำพร้าพ่อแม่ผู้ปกครองจากโรคโควิด-19 เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลกและซ่อนอยู่ในมุมมืด โดยสหรัฐฯ เองก็เผชิญปัญหานี้ไม่ต่างกัน
ฮิลลิสระบุว่าพวกเราทุกคน โดยเฉพาะลูกหลานอีกหลายรุ่น จะรับรู้ผลกระทบอันรุนแรงของปัญหานี้ ทั้งในทันทีและในระยะยาวต่อไป การแก้ปัญหาเหล่านี้ที่เด็กได้เผชิญและจะเผชิญต่อไปต้องเป็นหนึ่งในพันธกิจหลัก ที่ถูกผสานเข้ากับการรับมือภาวะฉุกเฉินอันรอบด้าน ทั้งในตอนนี้และในอนาคต
ด้านอเล็กซานดรา เบลนกินซอป ผู้ร่วมนำการวิจัยจากราชวิทยาลัยลอนดอน ระบุว่าจำนวนเด็กที่ได้รับผลกระทบเป็นเครื่องเตือนใจถึงผลพวงจากโรคระบาดอันเลวร้ายตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา เด็กเหล่านี้กลายเป็นกลุ่มเปราะบางที่สุด ซึ่งควรได้รับการเอาใจใส่โดยตรง
อนึ่ง การศึกษาข้างต้นเป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ราชวิทยาลัยลอนดอน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ในแอฟริกาใต้