รวบแล้วหนุ่มหัวร้อน ปาดหน้ารถพ่วงชักปืนขู่ ตบหน้าโชเฟอร์ ตรวจเจอฉี่ม่วง

รวบหนุ่มหัวร้อน ขับรถปาดหน้ารถพ่วง ก่อนชักปืนขู่ ตบหน้าคนขับต่อหน้าเมียและลูก ตรวจฉี่พบเป็นสีม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ถูกแจ้ง 3 ข้อหาหนัก

กรณีนายเสกสรร สุริยะวงค์ อายุ 33 ปี คนขับรถพ่วง 18 ล้อ ส่งสินค้า นำคลิปวีดีโอจากกล้องหน้ารถ เข้าแจ้งความต่อ ตร.สภ.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ให้ดำเนินคดีกับชายหนุ่มหัวร้อน ที่ขับรถปาดหน้ารถพ่วงของตน ก่อนชักปืนขึ้นมาขู่ และพยายามเปิดประตูรถ ก่อนจะตบเข้าที่ใบหน้าของนายเสกสรร พูดจาด่าทอ ข่มขู่ ต่อหน้าภรรยาและลูก ก่อนที่จะขึ้นรถคันเดิมหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.45 น. วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา บนถนนแสงชูโต ปากทางเข้าวัดลูกแก เขตเทศบาลตำบลลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรลูกแก เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวชายหนุ่มหัวร้อน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุพร้อมเพื่อนที่เป็นคนขับรถได้แล้ว

ทราบชื่อคือนายธงชาติ ซึ่งเป็นวัยรุ่นที่มีบ้านอยู่ในพื้นที่ต.ท่าไม้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยสามารถจับกุมได้พร้อมรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ และอาวุธปืน บีบีกัน กระบอกที่ใช้ก่อเหตุ

นายธงชาติ รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยมีมูลเหตุจากความไม่พอใจที่ถูกนายเสกสรร คนขับรถพ่วง18 ล้อ กะพริบไฟใส่รถคันที่นายธงชาตินั่งมากับเพื่อน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างให้ปากคำนายธงชาติ มีท่าทีลุกลี้ลุกลน ให้การวกไปวนมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ผลปรากฏเป็นสีม่วง ซึ่งนายธงชาติก็รับว่าเสพยาบ้ามาจริง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีกับนายธงชาติ ในความผิดฐาน ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจโดยการขู่เข็ญ โดยนายธงชาติรับสารภาพและยินยอมเสียค่าปรับจำนวน 1,000 บาท พร้อมชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งให้กับนายเสกสรร ผู้เสียหายเป็นเงิน 5,000 บาท

ส่วนกรณี ที่นายธงชาติ มีปัสสาวะสีม่วงและรับว่าเสพยาบ้ามานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) พร้อมนำตัวนายธงชาติ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หลังนายธงชาติ ถูกจับกุมดำเนินคดี นายเสกสรรผู้เสียหายเข้าขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด